บาหลีให้ต่างชาติ’วิดพื้น’ฐานไม่สวมหน้ากาก
สเตรทส์ไทม์สได้รายงานว่า อินโดนีเซีย หนึ่งในชาติที่มีสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 หนักที่สุดในหมู่ชาติอาเซียน โดยจนถึงวันที่ 21 มกราคม อินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มสูงถึง 939,948 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมแล้วถึง 26,857 ราย วันเดียวกันมีรายงานว่า บนเกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อดังของอินโดนีเซีย ได้งัดบทลงโทษชาวต่างชาติที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ตามกฎข้อบังคับที่รัฐบาลท้องถิ่นเกาะบาหลีบังคับใช้มาตั้งแต่ปีก่อนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการให้วิดพื้น
โดยในโลกโซเชียลมีการโพสต์คลิปเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายหนึ่งสวมเสื้อยืด นุ่งกางเกงขาสั้น ถูกลงโทษให้วิดพื้นต่อหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ยืนกำกับดูอยู่ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบนเกาะบาหลีรายหนึ่งกล่าวว่า หลายวันที่ผ่านมามีชาวต่างขาติหลายคนที่ถูกตรวจจับเนื่องจากไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย โดยกว่า 70 คน ที่ถูกจับเพราะไม่สวมหน้ากากอนามัย ได้ถูกปรับเงิน จำนวน 100,000 รูเปียห์ (ราว 300 บาท) แต่อีก 30 คน ไม่มีเงินสดจ่ายค่าปรับ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้วิดพื้นเป็นการลงโทษแทน สำหรับคนที่ไม่มีหน้ากากอนามัยติดตัวจะต้องวิดพื้น 50 ครั้ง ส่วนผู้ที่มีหน้ากากแต่สวมใส่ไม่ถูกต้อง จะถูกสั่งวิดพื้น 15 ครั้ง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่บาหลียังเตือนชาวต่างชาติที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของทางการเพื่อควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดด้วยว่า พวกเขาอาจถูกให้ออกจากประเทศได้ แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีการปฏิบัติเช่นนั้นก็ตาม
