บลิงเคนโทรคุยดอน หารือกระชับสัมพันธ์หลากมิติ
เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โทรศัพท์หารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย หลังการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอย่างเป็นทางการ
ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานและความร่วมมือที่ครอบคลุมหลากหลายมิติระหว่างไทยกับสหรัฐ รวมถึงการรับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับอาเซียน ความมั่นคงทางไซเบอร์ และประเด็นที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง อาทิ การต่อต้านการค้ามนุษย์ สิทธิมนุษยชน การดูแลแรงงานต่างด้าว โดยนายดอนยังได้กล่าวถึงวาระการเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคของไทยในปี 2565 และได้ย้ำคำเชิญนายบลิงเคนเยือนประเทศไทยด้วย
ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายดอนได้มีหนังสือแสดงความยินดีถึงนายบลิงเคน โดยกล่าวถึงการเข้ารับตำแหน่งของนายบลิงเคนในช่วงเวลาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายหลายประการ และบทบาทนำของสหรัฐในการนำเสถียรภาพ สันติภาพ และความรุ่งเรืองกลับมาสู่ประชาคมระหว่างประเทศ บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นและเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน
รวมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่านายบลิงเคนจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินภารกิจดังกล่าวของสหรัฐ และในฐานะประเทศคู่ภาคีสนธิสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย ไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับนายบลิงเคนและสหรัฐในการเสริมสร้างเสถียรภาพ สันติภาพ และความรุ่งเรืองในประชาคมระหว่างประเทศ และได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นภายใต้บทบาทสำคัญของนายบลิงเคนในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นว่า ไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับสหรัฐในการเสริมสร้างเสถียรภาพ สันติภาพ และความรุ่งเรืองในประชาคมระหว่างประเทศ และได้เชิญนายบลิงเคนเดินทางเยือนประเทศไทยในโอกาสที่จะเดินทางเยือนภูมิภาคต่อไป เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีร่วมกันต่อ “มุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก” (ASEAN Outlook on Indo-Pacific: AOIP) ซึ่งไทยมีส่วนร่วมจัดทำ และแสดงความเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
