จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เผยวัคซีนต้านโควิด ได้ผลโดยรวม 66% แต่ยังรับมือไม่ดีต่อไวรัสกลายพันธุ์

แฟ้มภาพเอเอฟพี

จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เผยวัคซีนต้านโควิด ได้ผลโดยรวม 66% แต่ยังรับมือไม่ดีต่อไวรัสกลายพันธุ์

เมื่อวันที่ 30 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บริษัท จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยา เครื่องมือแพทย์และสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 มกราคม ถึงผลการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นพบว่าวัคซีนตัวนี้ที่ใช้เพียง 1 โดสเท่านั้น มีประสิทธิผลในการยับยั้งป้องกันไวรัสโควิดที่ 72 เปอร์เซ็นต์ ในการทำการทดลองทางคลินิกในสหรัฐอเมริกา แต่พบว่าประสิทธิผลของวัคซีนตัวนี้ลดลงอยู่ที่ 66 เปอร์เซ็นต์เมื่อประเมินประสิทธิผลโดยรวมจากการทำทดลองทางคลินิกใน 3 ทวีป และการป้องกันกับไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์

ในการทดลองวัคซีนของเจแอนด์เจ ที่ใช้อาสาสมัครเกือบ 44,000 คน พบว่า วัคซีนมีประสิทธิผลในการต่อต้านเชื้อไวรัสทั้งในผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนๆ ปานกลางและมีอาการรุนแรง ซึ่งได้ผลสูงถึง 72 เปอร์เซ็นต์ในการทำการทดลองในประเทศสหรัฐ แต่ได้ผลลดลงเหลือ 57 เปอร์เซ็นต์ในการทดลองในประเทศแอฟริกาใต้ที่พบการกลายพันธุ์ของไวรัส ส่วนในลาตินอเมริกาได้ผล 66 เปอร์เซ็นต์

นายอเล็กซ์ กอร์สกี ซีอีโอของเจแอนด์เจ กล่าวว่า เราภูมิใจที่ได้บรรลุหลักไมล์สำคัญและพันธกิจของเราในการรับมือกับวิกฤตสาธารณสุขโลกที่ยังดำเนินต่อไปด้วยความเร่งด่วนเพื่อทุกคนและทุกๆที่

ด้านนางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้รับทราบข้อมูลนี้และสำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐจะทำการประเมินในข้อมูลนี้ต่อไป

Advertisement

ขณะที่เจแอนด์เจระบุว่า จะยื่นขอความเห็นชอบจากเอฟดีเอเพื่อให้อนุมัติใช้วัคซีนตัวนี้เป็นกรณีฉุกเฉินในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะเป็นวัคซีนต้านโควิดตัวที่ 3 ที่สามารถใช้ได้ในประเทศสหรัฐที่เผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดหนักของไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ หลังจากที่วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และวัคซีนของโมเดอร์นาซึ่งมีประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ราว 95 เปอร์เซ็นต์ เป็นวัคซีน 2 ตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ในสหรัฐไปก่อนหน้านี้แล้ว

สำหรับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของเจแอนด์เจนั้น ใช้ในการป้องกันเพียง 1 โดสเท่านั้น ในขณะที่วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาต้องใช้จำนวน 2 โดส ในระยะห่างที่ต่างกันไป และขณะที่วัคซีนของเจแอนด์เจสามารถเก็บได้นานถึง 3 เดือนที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิตู้เย็นปกติ แต่วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิเย็นจัด ถึงติดลบ 70 องศาเซลเซียส และติดลบ 20 องศาเซลเซียสตามลำดับ

เจแอนด์เจระบุอีกว่าหากวัคซีนตัวนี้ผ่านการรับรองแล้ว บริษัทจะสามารถจัดส่งวัคซีนในสหรัฐให้ได้ 100 ล้านโดสภายในเดือนมิถุนายนปีนี้

Advertisement

เอเอฟพีระบุว่า การทดลองวัคซีนในเฟส 3 ของเจแอนด์เจ ซึ่งทำใน 8 ประเทศ มีอาสาสมัครเข้าร่วม 43,783 คน ในจำนวนนี้ 34 เปอร์เซ็นต์ มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนการทดลองในสหรัฐมีอาสามัครเข้าร่วม 19,302 คน ในลาตินอเมริกา 17,905 คน และแอฟริกาใต้ 6,575 คน ประสิทธิผลจากผลการทดลองทางคลินิกที่ได้มีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ซึ่งเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงความน่ากลัวที่มีมากขึ้นของไวรัสกลายพันธุ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image