เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพี รอยเตอร์และบีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมประท้วงการยึดอำนาจของกองทัพเมียนมาว่า ที่นครย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศในวันเดียวกันนี้ ชาวเมียนมายังคงเดินทางออกมาชุมนุมประท้วงกันเป็นจำนวนหลายหมื่นคนติดต่อกันเป็นวันที่สอง บริเวณถนนใกล้กับมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง โดยพากันสวมเสื้อสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางออง ซาน ซูจี ซึ่งถูกทางการควบคุมตัวอยู่ในเวลานี้
รอยเตอร์รายงานว่า จำนวนผู้ชุมนุมในวันนี้เพิ่มมากขึ้นจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอย่างชัดเจน โดยนายเมียว วิน หนึ่งในผู้ประท้วงวัย 37 ปี ยืนยันว่า จะเดินหน้าชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ในขณะที่ผู้ร่วมชุมนุมพากันตะโกนพร้อมๆ กันว่า “ไม่เอาเผด็จการทหาร”
รอยเตอร์ระบุว่า ผู้ชุมนุมชาวเมียนมาหลายจุดในนครย่างกุ้งเดินทางมารวมตัวกันในบริเวณใกล้กับเจดีย์สุเลพญา ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมสำคัญทางการเมืองมาแล้วหลายครั้ง โดยเป็นแหล่งชุมนุมใหญ่เมื่อครั้งเกิดเหตุลุกฮือนำโดยคณะสงฆ์เมียนมาที่เรียกว่าการปฏิวัติผ้าเหลือง ในปี 2550 และการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2531 อีกด้วย
รอยเตอร์รายงานว่า การชุมนุมแทบทุกพื้นที่เป็นไปอย่างสงบ มีเพียงการชุมนุมที่จังหวัดเมียวดี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนขับไล่กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่เดินทางมาชุมนุมข้ามคืน ที่หน้าสถานีตำรวจเมืองพญาโตนซู ในจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่คุมขังสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีประจำเมือง โดยมีผู้ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
