มลพิษจากพลังงานฟอสซิล ทำชาวโลกตาย 8 ล้านคน เอเชียกระทบหนักสุด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รายงานที่เผยแพร่บนวารสารการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ระบุว่า มลพิษจากพลังงานฟอสซิลเป็นสาเหตุให้ประชากรโลกมากกว่า 8 ล้านคนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในปี 2018 โดยคิดเป็นเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตในผู้ใหญ่ทั่วโลก
ครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดกระจายอยู่ในประเทศจีนและอินเดีย ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลือกระจายอยู่ในประเทศบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ประเทศละ 1 ล้านคน
มลพิษจากฟอสซิลเกิดจากการเผาไหม้ของน้ำมัน แก๊ส และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ่านหินซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของสาเหตุของการเสียชีวิตใน 6 ประเทศเอเชีย
นายโจเอล ชวาร์ทซ ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า “พวกเราพูดคุยกันอยู่เป็นประจำถึงอันตรายของการเผาไหม้พลังงานฟอสซิล ในบริบทของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และมองไปถึงความเป็นไปได้ของผลกระทบต่อสุขภาพ”
“หนทางที่จะช่วยให้คนหลายล้านคนไม่ตายก่อนวัยอันควร คือมาตรการที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการใช้พลังงานสีเขียว”ชวาร์ทซระบุ
ทั้งนี้มลพิษทางอากาศส่งผลให้ประชากรโลกมีอายุสั้นลงโดยเฉลี่ยมากกว่า 2 ปี และเอเชียเป็นทวีปที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะประเทศจีนที่อายุขัยเฉลี่ยลดลง 4.1 ปี ตามมาด้วยประเทศอินเดียลดลง 3.9 ปี ปากีสถาน 3.8 ปี อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่ของประเทศเหล่านี้อายุขัยของประชากรลดลงกว่า 2 เท่า
