ยูเอ็นแจ้งผู้นำทหารเมียนมา โลกกำลังจับตาใกล้ชิด ย้ำต้องเคารพเสรีภาพในการชุมนุม
หลังจากที่กองทัพเมียนมาใช้การระงับสัญญานอินเตอร์เน็ตเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมและสกัดกั้นการรวมตัวกันของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ล่าสุดสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกมาประณามการสกัดกั้นดังกล่าว
นายฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกของเลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า นางคริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นว่าด้วยเรื่องเมียนมา ได้โทรศัพท์พูดคุยกับพลเอกอาวุโสโซ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมกับเตือนว่าการระงับสัญญานอินเตอร์เน็ตเป็นการบ่อนทำลายหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตย
ฮักกล่าวว่าด้วย การปิดกั้นอินเตอร์เน็ตยังส่งผลกระทบกับธุรกิจหลักต่างๆ ซึ่งรวมถึงภาคธนาคาร และยิ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความตึงเครียดในประเทศ ซึ่งยูเอ็นได้แสดงให้ทราบถึงความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน
ฮักกล่าวว่า บูร์เกเนอร์ได้เน้นย้ำถึงสิทธิในการชุมนุมโดยสันติที่ต้องได้รับการเคารพ และการชุมนุมต้องไม่เป็นเป้าหมายของการตอบโต้ด้วยกำลังทหาร
“เธอได้แจ้งต่อกองทัพเมียนมาว่าโลกกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด และการดำเนินการตอบโต้ด้วยการใช้กำลังหรือความรุนแรงจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้าย”ฮักกล่าว
ด้านกองทัพเมียนมาระบุว่า พลเอกอาวุโสโซ วิน ได้พูดคุยถึงแผนการของกองทัพ และแจ้งข้อมูลที่แท้จริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมาให้ยูเอ็นรับทราบ
ขณะที่ทีมข่าวทรู นิวส์ อินฟอร์เมชั่น ของเมียนมารายงานว่า ผู้คนยินดีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงออกลาดตระเวน และกองกำลังฝ่ายความมั่นคงจะออกปฏิบัติหน้าที่ทั้งกลางวันและกลางคืน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วงได้ทำลายความมั่นคงในชาติ และทำให้ผู้คนตกอยู่ในความหวาดกลัว แม้ที่ผ่านมาเกิดความรุนแรงในการประท้วงไม่มากนักเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นภายใต้การปกครองของทหารเมียนมาในอดีต โดยมีผู้ประท้วงถูกยิงด้วยกระสุนยางได้รับบาดเจ็บหลายราย และมีหญิงรายหนึ่งที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้วยกระสุนจริง ซึ่งคาดว่าเธอไม่น่าจะรอดชีวิต