อาจเป็น’ยาปลอม’จากจีนที่คร่าชีวิตพรินซ์ หลังพบอยู่ในบ้านมีฤทธิ์แรงกว่าเฮโรอีน

(เครดิตภาพจากเอเอฟพี)

เว็บข่าวยาฮูรายงานว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ “พรินซ์” ศิลปินนักร้องดังชาวอเมริกันวัย 57 ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยผลชันสูตรศพที่ระบุว่า เพราะเสพยาเฟนทานิล ซึ่งมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดเกินขนาด เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่พบยาในไพส์ลีย์ พาร์ค บ้านพักของปรินซ์ ซึ่งสถานที่พบศพของนักร้องดังมี “ยาปลอม” ซึ่งมีส่วนผสมของยาเฟนทานิล ซึ่งมีสารสังเคราะห์โอปิออยด์ที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่าเฮโรอีนถึง 50 เท่า

จากข่าวอ้าง เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ขอเปิดเผยนาม เนื่องจากระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนเพื่อสืบหาว่าพรินซ์ได้ยาต่างๆ มาได้อย่างไรนั้น กล่าวว่า ยากว่า 20 เม็ดที่พบอยู่ในขวด ซึ่งมีฉลากระบุชื่อยาว่า “Watson 385” ซึ่งตามข้อมูลจากเว็บ Drugs.com ระบุว่า ฉลากยาดังกล่าวถูกใช้เพื่อระบุถึงยาที่มีส่วนผสมของอะเซตามิโนเฟนและไฮโดรโคโดน ซึ่งมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด มียาอย่างน้อย 1 เม็ดที่มีผลการตรวจสอบพบว่าเป็นยาเฟนทานิล และยังพบยาอีกกว่า 20 เม็ดที่มีลักษณะคล้ายยาเม็ดดังกล่าว

จากข่าวยังว่า เจ้าหน้าที่พบยาราว 24 เม็ดในห้องแต่งตัวของพรินซ์ แต่ยาส่วนใหญ่ถูกบรรจุอยู่ในขวดยาแอสไพรินและวิตามินซี ซึ่งอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทางหลายใบ รวมทั้งกระเป๋าใบหนึ่งที่พรินซ์ชอบถือบ่อยๆ และยาแอสไพรินอีกขวดหนึ่งยังมี “ยาปลอม” บรรจุอยู่กว่า 60 เม็ด

ทั้งนี้ จากข่าวระบุว่า ยาบางตัวได้รับการตรวจสอบแล้วว่ามีส่วนผสมของ ยาเฟนทานิล, ลิโดเคน และ U-4770 ซึ่งเป็นยาเสพติดสังเคราะห์ มีฤทธิ์รุนแรงกว่ามอร์ฟีนถึง 8 เท่า นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบขวดยาตามใบสั่งแพทย์ แต่เป็นชื่อของคนอื่น โดยในขวดยานั้นมียาออกซิโคโดน ยาแก้ปวด 10 เม็ด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยถึงชื่อของบุคคลที่ถูกระบุที่ขวดยาดังกล่าว

Advertisement

อนึ่ง จากข่าวยังอ้างหนังสือสตาร์ ทรีบูน อ้างว่าดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้ที่พรินซ์จะเสียชีวิตจากยาปลอมจากจีน ที่มีส่วนผสมของเฟนทานิล และทะลักเข้าสู่สหรัฐในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตโดยเสพยาเกินขนาดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเหยื่อหลายราย ซึ่งกรณีของนักร้องดัง เจ้าหน้าที่ก็สันนิษฐานว่ามีความเป็นไปได้ที่พรินซ์อาจเสพยาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้ถึงอันตรายของยา

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image