จีนลั่นพร้อมเปิดเจรจามะกัน ฟื้นสัมพันธ์สองชาติ
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนส่งสัญญาณอันดีว่าสหรัฐอเมริกาและจีนอาจสามารถทำงานร่วมกันได้ในประเด็นปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หากทั้งสองประเทศฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ถูกทำลายไปคืนมา โดยนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน แสดงท่าทีนี้ก่อนหน้าเข้าร่วมการประชุมที่จัดโดยกระทรวงต่างประเทศจีนเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซึ่งได้มีการเปิดวิดีโอเทป “การทูตปิงปอง” ในช่วงปี 1972 ที่เป็นการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐในห้วงเวลานั้นให้ได้ชมด้วย
“ปักกิ่งพร้อมที่จะเปิดการเจรจาอย่างสร้างสรรค์กับวอชิงตัน” นายหวังกล่าว หลังจากความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้เสื่อมถอยลงถึงจุดต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ
นายหวังยังเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจีน และยุติการปราบปรามอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีนอย่างไร้เหตุผล ซึ่งข้อเรียกร้องเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนชี้ว่าจะเป็นการสร้างเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับความร่วมมือระหว่างกัน
นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศจีนยังเรียกร้องให้สหรัฐเคารพในผลประโยชน์อันสำคัญของจีน ยุติการทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เสื่อมเสีย เลิกแทรกแซงกิจการภายในของจีน และยุติการสมคบกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชของไต้หวัน
“กว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้ตัดการเจรจาทวิภาคีไปในทุกระดับ เราพร้อมที่จะติดต่อสื่อสารอย่างตรงไปตรงมากับฝ่ายสหรัฐ และร่วมการเจรจาที่มุ่งแก้ไขปัญหาต่างๆ” นายหวัง อี้ ระบุในถ้อยแถลง พร้อมกล่าวอีกว่า การโทรศัพท์พูดคุยกันเมื่อเร็วๆนี้ ระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ถือเป็นย่างก้าวที่ดี
ทั้งนี้สหรัฐและจีนมีปัญหากระทบกระทั่งกันหลายด้านที่ฉุดลากความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจโลกแห่งนี้ให้เสื่อมถอยลง ทั้งการทำสงครามการค้า การกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงของจีน และ การกล้าวอ้างสิทธิอธิปไตยของจีนในทะเลจีนใต้
อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของไบเดนส่งสัญญาณออกมาแล้วว่าจะยังคงเดินหน้ากดดันจีนต่อไป โดยไบเดนได้ส่งเสียงแสดงความห่วงกังวลต่อการปฏิบัติทางการค้าของจีนที่สหรัฐกล่าวหาว่าไม่เป็นธรรม และสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่ผ่านมาว่าจีนก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในมณฑลซินเจียง
อย่างไรก็ตาม ไบเดนให้คำมั่นด้วยว่าจะดำเนินในแนวทางพหุภาคีมากขึ้นและจะให้ความร่วมมือกับจีนในประเด็นปัญหาต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์
