40วันการประท้วงเมียนมา
ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารของนายพลมิน อ่อง ลาย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมาย ทั้งการจับกุมนางอองซาน ซูจีและประธานาธิบดีวิน มยิน จนทำให้ประชาชนในทุกศาสนา ทุกชนเผ่าทั่วประเทศออกมาประท้วง การทำอารยะขัดขืนในกลุ่มคนทุกอาชีพ การตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตและโทรทัศน์ และเกิดการปราบปรามผู้ประท้วงด้วยความรุนแรง จนนำไปสู่การลี้ภัยไปอินเดียของตำรวจ นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อหามากมายให้กับนางอองซาน ซูจี จากการรายงานจากสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองของเมียนมาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงแล้วมากกว่า 60 คน และมีผู้ถูกจับกุมราว 2,000 คน
เนื่องจากรัฐบาลทหารเมียนมาใช้ความรุนแรงทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งการประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ด้วยการบุกจับผู้ประท้วงหรือผู้สนับสนุนพรรคเอ็นแอลดีถึงที่บ้านในยามวิกาล และการใช้กระสุนจริงยิงประชาชนจนถึงแก่ชีวิต
แม้จะมีความสูญเสียถึงชีวิต แต่ประชาชนชาวเมียนมาก็ยังสู้ต่อไปเพื่อให้ประชาธิปไตยและผู้นำที่พวกเขาเลือกกลับมา และด้วยความหวังที่ไม่อยากให้ประเทศอันเป็นที่รัก ต้องตกอยู่ใต้เงารัฐบาลทหาร ที่ไม่เหลียวแลประชาชนเหมือนอย่างเมื่อ 10 ปีก่อน
ในขณะเดียวกันพี่น้องชาวเมียนมาในต่างแดนได้ออกมาร่วมประท้วงต่อต้านการรัฐประหารเช่นเดียวกัน ทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ศรีลังกา เกาหลีใต้และอีกหลายประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ในหลายประเทศทั่วโลกได้ประณามการกระทำอันโหดร้ายและทำการคว่ำบาตรเมียนมาซึ่งรวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังไม่มีท่าทีที่รัฐบาลทหารเมียนมาจะหยุดใช้ความรุนแรงปราบผู้ชุมนุม
ขณะที่กำลังนั่งอ่านข่าวในแต่ละวัน ก็มีชาวเมียนมาเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่มีใครอาจรู้ได้ว่าตอบจบของการประท้วงในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร แต่เมียนมาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป