เดนมาร์ก+6 ชาติอียู สั่งระงับฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ชี้ทำลิ่มเลือดอุดตัน
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 11 มีนาคมว่า องค์การสุขภาพเดนมาร์ก (ดีเอชเอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานสูงสุดด้านสาธารณสุขของทางการเดนมาร์ก สั่งให้ระงับการฉีดวัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดร่วมกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า หลังจากมีรายงานว่ามีกรณีที่ผู้ได้รับวัคซีนเกิดภาวะลิ่มเลือดขึ้นหลายราย รวมทั้งผู้ได้รับวัคซีนรายหนึ่งในเดนมาร์กเองด้วย
รายงานข่าวระบุว่าในการแถลงข่าวดีเอชเอไม่ได้ระบุว่ามีรายงานการเกิดลิ่มเลือดขึ้นในผู้ได้รับวัคซีนกี่ราย แต่ก่อนหน้านี้ ประเทศออสเตรีย ได้สั่งระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไว้เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน เพื่อสอบสวนกรณีที่ผู้รับวัคซีนรายหนึ่งเสียชีวิต หลังจากเกิดการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ (coagulation disorders) ขึ้น ในขณะที่อีกรายล้มป่วยด้วยภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (pulmonary embolism หรือ PE) โดยดีเอชเอ ระบุเพียงว่า นอกจากเดนมาร์กแล้วมี อีก 6 ประเทศในสหภาพยนุโรป (อียู) ที่ระงับการใช้วัคซีนเดียวกันนี้ไว้ก่อนในเวลานี้
นายโซเรน บรอสตรอม ผู้อำนวยการดีเอชเอ ระบุว่าคำสั่งครั้งนี้เป็นการสนองตอบต่อรายงานที่ว่า อาจมีผลข้างเคียงร้ายแรงเกิดขึ้นได้จากทั้งในเดนมาร์กและในชาติอียูอื่นๆ โดยไม่ขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เกิดภาวะลิ่มเลือดในเดนมาร์กแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางแอสตร้าเซนเนก้า ได้ออกมายืนยันว่า วัคซีนของตนผ่านการผลิตที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด และไม่มีรายงานการยืนยันว่า วัคซีนก่อผลในทางลบร้ายแรงให้กับผู้รับวัคซีน โดยย้ำว่าได้ติดต่อกับทางการออสเตรียเพื่อให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
ทางด้านสำนักงานการแพทย์แห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) ที่ดูแลด้านสาธารณสุขของอียู แถลงเมื่อวันที่ 10 มีนาคมนี้ว่า ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ถึงการเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนตัวนี้กับผู้ป่วยจากการเกิดภาวะลิ่มเลือดทั้ง 2 รายในออสเตรียในเวลานี้ โดยชี้ว่า การเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า นั้น ไม่ได้มีสัดส่วนสูงกว่าการเกิดภาวะเดียวกันในประชากรทั่วไปแต่อย่างใด โดยพบเพียง 22 รายจากจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนไป 3 ล้านราย ณ วันที่ 9 มีนาคมเท่านั้น
