เผยโลกมีฝาแฝดเกิดสูงเป็นประวัติการณ์
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ ฮิวแมน รีโพรดักชั่น เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 มีนาคมระบุว่า โลกมีอัตราการเกิดของทารกฝาแฝดเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ โดยในแต่ละปีมีทารกฝาแฝดออกมาลืมตาดูโลกมากกว่า 1.6 ล้านคน หรือ 1 ในทุกการเกิดของทารก 42 คน จะเป็นฝาแฝด ซึ่งทีมวิจัยชี้ว่าเป็นผลมาจากวิทยาการทางการแพทย์ เช่น วิธีการปฏิสนธินอกร่างกาย หรือเด็กหลอดแก้ว ซึ่งทำให้อัตราการเกิดของทารกฝาแฝดเพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 นับจากช่วงทศวรรษ 1980
งานวิจัยชิ้นนี้ทีมนักวิจัยได้รวบรวมข้อมูลจาก 135 ประเทศ ระหว่างปี 2010-2015 เปรียบเทียบกับในช่วงทศวรรษ 1980-1985 ชี้ว่า จำนวนทารกแฝดพุ่งขึ้นสูงสุด เนื่องจากอัตราการเกิดของทารกแฝดในทุกภูมิภาคเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ในเอเชียเพิ่มขึ้น 32% จนถึงในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 71%
อัตราการเกิดของทารกฝาแฝดต่อการคลอดทารกหลายพันคน ยังมีอัตราสูงมากในยุโรปและอเมริกาเหนือ ส่วนทั่วโลกมีเพิ่มขึ้นจาก 9 ต่อการคลอดทารก 1,000 คน เพิ่มเป็นที่ 12 ต่อ 1,000 คน
ทว่าอัตราการเกิดของฝาแฝดมีสูงที่สุดในทวีปแอฟริกา ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 30 ปีก่อน โดยงานวิจัยชี้ว่าเป็นเพราะความแตกต่างทางพันธุกรรมของประชากรในภูมิภาคนี้
ทวีปแอฟริกาและเอเชียยังมีการเกิดของทารกฝาแฝดรวมกันคิดเป็น 80% ของการเกิดของทารกฝาแฝดทั่วโลก
งานวิจัยยังชี้ว่าการเพิ่มขึ้นของทารกฝาแฝดในพื้นที่ยากจน ยังเป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวล โดยการคลอดทารกแฝดยังมีความเชื่อมโยงกับอัตราการเสียชีวิตสูงในหมู่ทารกและการเกิดภาวะแทรกซ้อนในมารดาและทารกในระหว่างการตั้งครรภ์และหลังคลอดด้วย ซึ่งนายเจอโรน สมิทส์ หนึ่งในผู้ร่วมเขียนรายงานวิจัย กล่าวว่า มีความจำเป็นที่จะต้องให้ความสนใจดูแลกับการเกิดของทารกฝาแฝดในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางให้มากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮารา ที่ฝาแฝดส่วนใหญ่มักจะสูญเสียคู่แฝดไปในช่วงปีแรกหลังลืมดูโลก ซึ่งบางปีมีการสูญเสียฝาแฝดไปราว 2-3 แสนคน
