องค์กรสงฆ์พม่า เรียกร้อง รัฐบาลทหาร ยุติใช้ความรุนแรงปราบผู้ชุมนุม-เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การเมืองในพม่า ยังคงตึงเครียด โดยมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของพม่า มีกลุ่มควันปกคลุมพื้นที่บางส่วนที่กลายเป็นเหมือนสมรภูมิรบจากการที่มีการจุดไฟเผาเครื่องกีดขวางบนท้องถนนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงขณะบังคับใช้กฎอัยการศึก ซึ่งมีผลครอบคลุมในพื้นที่ 5 เขตของย่างกุ้ง ซึ่งรวมถึงเขตไลง์ตายา ย่านนิคมอุตสาหกรรม ที่มีประชาชนหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพ ได้พากันเก็บข้าวของอพยพออกจากพื้นที่เพื่อหนีการบังคับใช้กฎอัยการศึก หลังจากเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้กำลังเข้าปราบปรามสังหารผู้ประท้วงเสียชีวิตไปมากกว่า 70 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเขตไลง์ตายา
ขณะที่ในช่วงเย็นวันก่อนหน้า เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับฝ่ายความมั่นคงในย่างกุ้ง ที่ผู้ประท้วงบางรายได้ปาระเบิดเพลิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ส่วนคลิปวิดีโอหนึ่งที่ได้รับการตรวจสอบแล้วแสดงให้เห็นว่ามีการรัวยิงปืนไม่หยุดนานราว 15 วินาที แต่ยังไม่มีรายงานตัวเลขผู้สูญเสีย
เอเอฟพี รายงานว่า สมาคมช่วยเหลือนักโทษ ให้ข้อมูลว่ามีผู้ประท้วงชาวเมียนมาถูกเจ้าหน้าที่รัฐสังหารเสียชีวิต ในเหตุชุมนุมต้านรัฐประหารไปแล้วมากกว่า 200 ราย
วันเดียวกัน สภาสังฆนายก องค์กรสงฆ์สูงสุดของเมียนมา ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทหารยุติการใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง และยังกล่าวหาว่ามีการเข่นฆ่าพลเมืองผู้บริสุทธิ์ หลังกองทัพก่อเหตุยึดอำนาจ ซึ่งนับเป็นท่าทีประณามแข็งกร้าวมากที่สุด ขององค์กรสงฆ์เมียนมาที่มีต่อเหตุรัฐประหาร โดยสภาสังฆนายกยังร่างแถลงการณ์ที่จะให้สมาชิกในองค์กรยุติการดำเนินกิจกรรมใดๆ เพื่อเป็นแสดงการต่อต้านเหตุรัฐประหารด้วย
ด้านนายฌอง อีฟ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะให้การรับรองมาตรการคว่ำบาตรผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจในเมียนมาสัปดาห์หน้า หลังจากการหารือในเชิงเทคนิคในเรื่องนี้ได้ข้อยุติแล้ว
