เมียนมาประท้วงเงียบ ต้านเผด็จการทหาร-องค์กรเด็กวอนยุติความรุนแรง หลังเด็กสังเวย 20 ศพ
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานสถานการณ์ในประเทศเมียนมาเมื่อ 24 มีนาคมนี้ว่า ที่นครย่างกุ้งและหลายหัวเมืองใช้แนวทางต่อต้านแบบใหม่ นัดหยุดงานและหยุดกิจกรรมทุกอย่างพร้อมกันทั้งเมือง เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพแบบอารยะขัดขืนจนถึงที่สุด ในขณะที่องค์กรเอ็นจีโอเพื่อเด็กเปิดเผยว่า มีเด็กเสียชีวิตจากการปราบปรามผู้ประท้วงในเมียนมาแล้วอย่างน้อย 20 ราย
ท้องถนนในหลายเมืองใหญ่ๆ ตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีกิจกรรม ไม่มีการทำงาน หรือสัญจรไปมาใดๆ ตามคำเรียกร้องของบรรดานักเคลื่อนไหวให้ชาวเมียนมาร่วมกันทำ “ไซเลนท์ สไตรค์” เพื่อแสดงออกถึงอารยะขัดขืนอย่างถึงที่สุด เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพในครั้งนี้ สภาพท้องถนนในย่างกุ้ง, มัณฑเลย์, กรุงเนปยีดอ เรื่อยไปจนถึงเมืองตองยี ในรัฐฉานทางเหนือและ มะริดกับทวายในรัฐตะนาวศรีทางตอนใต้ กลายเป็นโล่งและเงียบสงบ ไม่มีแม้แต่หาบเร่แผงลอยขายผักซึ่งจะมีให้เห็นทุกเช้าตามสองฟากถนน บางแห่ง อย่างเช่นมะริด มีการนำเอาตุ๊กตามาวางเรียงกันตามแนวถนนพร้อมป้ายข้อความต่างๆ อาทิ “เราต้องการประชาธิปไตย” เป็นต้น
ด้าน สมาคมเพื่อการช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) และ เซฟเดอะชิลเดรน เอ็นจีโอรณรงค์เพื่อเด็ก ออกมาเปิดเผยตรงกันว่า การปราบปรามของเจ้าหน้าที่เมียนมาเป็นเหตุให้มีเด็กเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 20 รายรวมทั้งรายล่าสุด ขิ่น เมียว ชิต วัยเพียง 7 ขวบที่ถูกยิงเสียชีวิตบนตักผู้เป็นพ่อในบ้านตัวเองระหว่างการจู่โจมของเจ้าหน้าที่
“การที่เด็กๆ ยังคงตกเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการปราบปรามและโจมตีต่อการชุมนุมประท้วงอย่างสันติอยู่ต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความรู้สึกสยดสยองอย่างยิ่ง” เซฟเดอะชิลเดรนระบุไว้ในถ้อยแถลงก่อนเรียกร้องให้ยุติการใช้กำลังรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อผู้ประท้วงทั้งหมดในทันที
เอเอพีพี ระบุว่า ได้ตรวจสอบยืนยันการเสียชีวิตจากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เริ่มต้นการประท้วงจนถึงขณะนี้ว่ามีมากถึง 275 ราย แต่ยอมรับว่าในส่วนที่ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้มีอีกไม่น้อย ทำให้ตัวเลขจริงๆ สูงกว่านี้มาก นอกจากนั้นยังมีผู้ถูกจับกุมไปควบคุมตัวอยู่กว่า 2,800 รายแล้ว
