‘สหรัฐ-อังกฤษ’ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเครือข่ายกองทัพเมียนมา

‘สหรัฐ-อังกฤษ’ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเครือข่ายกองทัพเมียนมา

สหรัฐอเมริกาและอังกฤษประกาศคว่ำบาตรบริษัทที่อยู่ในเครือข่ายภายใต้การควบคุมของกองทัพเมียนมา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น

กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศว่าได้ทำการคว่ำบาตรบริษัท Myanmar Economic Holdings Public Company Ltd (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation Ltd (MEC) ขณะที่อังกฤษได้ประกาศคว่ำบาตรต่อบริษัท MEHL โดยให้เหตุผลว่าเมียนมาได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกรณีชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮีนจา

การประกาศคว่ำบาตรดังกล่าวถือว่ามีนัยสำคัญมากที่สุดต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของกองทัพเมียนมา ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การผลิตเบียร์และบุหรี่ ไปจนถึงธุรกิจโทรคมนาคม การผลิตยางรถยนต์ การทำเหมือง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

หลังประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่เพียงไม่นานกระทรวงต่างประเทศสหรัฐยังออกมาประณามการใช้กำลังรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในเมียนมาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 รายรวมถึงเด็กอีกหลายคน

Advertisement

แถลงการณ์ของนายเน็ด ไพรส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า การกระทำอันโหดร้ายและรุนแรงต่อเด็กซึ่งมีหนึ่งในนั้นมีอายุเพียง 7 ขวบ ที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพักของตนเองขณะนั่งอยู่บนตักของผู้เป็นบิดา ยิ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติอันเลวร้ายของการใช้ความรุนแรงโดยกองทัพเมียนมาต่อประชาชน

ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดจะมีการยึดทรัพย์สินใดๆ ก็ตามของบริษัทเหล่านั้นในสหรัฐ และยังห้ามให้บริษัทสหรัฐรวมถึงพลเมืองสหรัฐทำการค้าหรือทำการธุรกรรมทางการเงินกับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อกองทัพเมียนมา เนื่องจากการค้าขายส่วนใหญ่มักทำผ่านสถาบันทางการเงินในสหรัฐ ขณะที่การขึ้นบัญชีดำครั้งนี้จะทำให้บริษัทเมียนมาถูกตัดขาดออกจากระบบการทำธุรกรรมทางการเงินในสหรัฐ

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การดำเนินการของสหรัฐได้พุ่งเป้าไปที่ผู้นำการก่อรัฐประหาร รวมถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจของกองทัพเมียนมา และการเงินที่สนับสนุนกองทัพเมียนมา ซึ่งได้กระทำการอันโหดร้ายรุนแรงต่อประชาชน แต่จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนชาวเมียนมา

Advertisement

บลิงเคนย้ำด้วยว่า สหรัฐและอังกฤษได้แสดงให้เห็นว่าพวกเราจะดำเนินการตามที่เคยให้คำมั่นไว้ว่า จะทำให้ผู้ยึดอำนาจและใช้ความโหดร้ายรุนแรงรวมถึงข่มขู่คุกคามประชาชนในช่วงที่ผ่านมา ต้องรับผิดชอบต่อผลแห่งการกระทำของตนเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image