พายุทรายทำ เรือสินค้ายักษ์ ขวางคลองสุเอซ ปั่นป่วนการขนส่งโลก ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกิดเหตุเรือสินค้าเอเวอร์กรีน เรือสินค้าบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาดยาว 400 เมตร เจอกับพายุทรายพัดจนเสียหลัก เกยตลิ่งจนขวางคลองสุเอซ คลองที่ถูกขุดเชื่อมทะเลแดงและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในประเทศอียิปต์ เส้นทางการขนส่งทางเรือที่สำคัญ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ส่งผลกระทบกับการขนส่งของโลก ล่าสุดส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแล้ว
รายงานระบุว่าอุบัติเหตุเรือสินค้าความยาวเกือบเท่ากับความสูงของตึกเอ็มไพร์สเตท ขวางคลองขนส่งสินค้าทางเรือที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในโลกในจุดที่มีความกว้างเพียง 250 เมตร อาจกินเวลาแก้ไขอีกหลายสัปดาห์กว่าที่เรือกู้ภัยจะสามารถกู้เรือออกจากจุดดังกล่าวได้ โดยเวลานี้เรือดูดทรายกำลังดูดทรายจำนวนมหาศาลออกจากบริเวณหัวเรืออย่างต่อเนื่อง
ด้านหน่วยงานควบคุมดูแลคลองสุเอซ (เอสซีเอ) ระบุก่อนหน้านี้ว่ามีเรือโยง 9 ลำพยายามดึงเรือเอเวอร์กรีน ออกจากจุดดังกล่าวแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ และเปิดเผยว่าจำเป็นต้องมีการลดน้ำหนักบนเรือด้วยการถ่ายน้ำมัน รวมถึงตู้สินค้าลงจากเรือ บวกกับการขุดทราย และใช้เรือโยงดึงเรือออก ขณะที่ล่าสุดได้มีการประกาศห้ามไม่ให้เรือสินค้าใดๆเข้าสู่คลองสุเอซแล้ว
อุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลให้เรือสินค้า และเรือบรรทุกน้ำมันและเรือบรรทุกก๊าซจำนวนรวมถึง 206 ลำที่ต้องจอดรอข้ามคลองที่ทั้งสองปลายทางของคลองสุเอซ ส่งผลให้อุบัติเหตุครั้งนี้นับเป็นเหตุเรือสินค้าติดขัดร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี
ด้านบริษัท A.P. Moller Maersk บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่า ได้มีการพิจารณาที่จะเปลี่ยนเส้นทางเดินเรืออ้อมแหลมกู้ดโฮป ตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีก 5 ถึง 6 วัน ระยะทางเพิ่มขึ้นราว 6,000 กิโลเมตรในการเดินทางระหว่างทวีปเอเชีย และยุโรป อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตัดสินใจในการเปลี่ยนเส้นทางดังกล่าว
ทั้งนี้ล่าสุดมีรายงานว่าราคาน้ำมันได้ดีดตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากปรับตัวลดลงในวันก่อนหน้า ผลจากความกังวลว่าเหตุเรือสินค้าติดขวางคลองสุเอซ อาจใช้เวลากู้หลายสัปดาห์ โดยราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ปรับตัวสูงขึ้น 0.7เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 62.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
