เมียนมาเซ่นทหารปราบโหด พุ่งกว่า 300 ศพ ชี้ 90% ถูกยิงดับ มือมืดปาระเบิดขวดถล่มพรรคซูจี

ภาพจากเฟซบุ๊กเแสดงให้เห็นกลุ่มผู้ประท้วงชาวเมียนมาเดินขบวนต่อต้านรัฐประหาร ในนครย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม (เอเอฟพี)

เมียนมาเซ่นทหารปราบโหด พุ่งกว่า 300 ศพ ชี้ 90% ถูกยิงดับ มือมืดปาระเบิดขวดถล่มพรรคซูจี

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ผู้ประท้วงชาวเมียนมายังคงออกมาชุมนุมต้านรัฐประหารในเมืองต่างๆ รวมถึงเมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม หลังจากเมื่อวันก่อนมีรายงานผู้ประท้วงในหลายเมืองถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยิงเสียชีวิตในวันเดียวรวม 9 ศพ

กลุ่มผู้ประท้วงเดินถือธงประจำพรรคเอ็นแอลดี ในระหว่างการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลทหาร ในนครย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม (เอเอฟพี)

ขณะที่สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง(เอเอพีพี)เปิดเผยข้อมูลที่รวบรวมมาชี้ว่า จนถึงวันที่ 25 มีนาคม มีผู้ประท้วงเมียนมาถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังปราบปรามจนเสียชีวิตไปแล้ว 320 ราย ในจำนวนนี้เกือบ 90% ถูกยิงเสียชีวิต และอีกอย่างน้อยกว่า 25% ถูกยิงหัวดับ

ชายชาวเมียนมาหยุดมองชุดเสื้อกาวน์ติดริบบิ้นสีดำ ถูกนำมาแขวนเรียงกันไว้บนรั้วมหาวิทยาลัยการแพทย์มัณฑะเลย์ ในเมืองมัณฑะเลย์ เป็นการแสดงอารยะขัดขืนต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมา เมื่อวันที่ 29 มีนาคม (เอเอฟพี)

เอเอพีพีชี้อีกว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว เกือบ 90% เป็นผู้ชาย ราว 36% มีอายุ 24 ปีหรือน้อยกว่านั้น โดยเหยื่อกระสุนสังหารที่มีอายุน้อยที่สุด คือ เด็กหญิงขิ่น เมียว จิต วัยเพียง 7 ขวบ ที่ถูกยิงเสียชีวิตคาตักพ่อที่บ้านของเธอในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อ 23 มีนาคม ส่วนเหยื่อที่มีอายุมากที่สุดคือ นายวิน จี อายุ 78 ปี เป็นหนึ่งในผู้ประท้วง 50 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิงเสียชีวิตในเขตไลง์ตายา ในนครย่างกุ้งเมื่อ 14 มีนาคม นั่นทำให้เกิดความสงสัยมากขึ้นว่าผู้ประท้วงเหล่านี้ตกเป็นเป้าถูกสังหารอย่างตั้งใจ

Advertisement
ชาวบ้านชู 3 นิ้วต้านรัฐประหาร ในนครย่างกุ้ง (เอเอฟพี)

“การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติมีการกระทำขึ้นทุกวัน” เอเอพีพีระบุ และว่ามีชาวเมียนมาที่ถูกจับกุม ดำเนินคดีหรือถูกตัดสินโทษไปแล้วจำนวนเกือบ 3,000 คน นับจากเกิดเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

ก่อนหน้านี้องค์กรด้านสิทธิอย่าง แอมเนสตีอินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า ทุกอย่างบ่งชี้ว่ากองกำลังฝ่ายความมั่นคงเมียนมาได้นำยุทธวิธี “ยิงสังหาร” มาใช้ในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง

ม็อบต้านรัฐประหารในเมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม (เอเอฟพี)

ข้อมูลข้างต้นของเอเอพีพีขัดแย้งกับของโฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ที่ออกมาแถลงว่า ถึงวันอังคาร(23 มี.ค.) มีผู้ประท้วงเสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงจำนวน 164 ราย และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเสียชีวิตไปจำนวน 9 นาย

Advertisement

วันเดียวกันมีรายงานเกิดเหตุมือมืด ปาระเบิดขวดใส่สำนักงานใหญ่ในนครย่างกุ้งของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(เอ็นแอลดี)ของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกกองทัพยึดอำนาจไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันเดียวกันนี้ ทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้น

ขบวนรถของกลุ่มผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารเคลื่อนไปตามท้องถนนในเมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม (เอเอฟพี)

จากการเปิดเผยของนายโซ วิน สมาชิกพรรคเอ็นแอลดีที่ดูแลสำนักงานใหญ่พรรคบอกว่า ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเห็นไฟไหม้เกิดขึ้น จึงได้โทรแจ้งหน่วยดับเพลิงให้มาดับไฟ จนควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลา 05.00 น. ดูเหมือนว่าจะมีคนจุดระเบิดขวดขึ้นแล้วปาเข้ามาในสำนักงานพรรค แต่มีเพียงประตูทางเข้าสำนักงานที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งทางพรรคกำลังประเมินความเสียหายอยู่และจะไปแจ้งความ โดยยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image