เมียนมายังฮือ โดนยิงดับเพิ่ม องค์กรเคลื่อนไหววอนกองกำลังชาติพันธุ์ ร่วมงัดข้อรัฐบาลทหาร

ภาพจากเฟซบุ๊กโพสต์เมื่อวันที่ 29 มีนาคม เผยให้เห็นมวลชนต้านรัฐประหารชาวเมียนมาออกมาเดินขบวนประท้วงต้านกองทัพ ในเมืองโมนยวา รัฐสกาย (เอเอฟพี)

เมียนมายังฮือ โดนยิงดับเพิ่ม องค์กรเคลื่อนไหววอนกองกำลังชาติพันธุ์ ร่วมงัดข้อรัฐบาลทหาร

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างรายงานของ เดโมเตรติก วอยซ์ ออฟ เบอร์มา สื่อท้องถิ่นว่า วันเดียวกันนี้ กองกำลังฝ่ายความมั่นคงเมียนมายังคงใช้กำลังรุนแรงปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง โดยมีการยิงเข้าใส่ฝูงชนที่ออกมาเคลื่อนไหวในเมืองย่างกุ้ง เป็นผลให้ชายคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตและอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ

ภาพจากสื่อท้องถิ่นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม เผยให้เห็นเด็กๆ ร่วมเดินขบวนประท้วงต้านรัฐประหาร ในรัฐกะเหรี่ยง (เอเอฟพี)

ติทา โซ ผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับรอยเตอร์ ชายผู้ตกเป็นเหยื่อกระสุนของฝ่ายความมั่นคง มีอายุราว 20 ปี ถูกยิงเข้าที่หัว “พวกเขายิงทุกอย่างบนถนน แม้กระทั่งทีมงานเจ้าหน้าที่กาชาด”

ขณะที่ยังมีผู้ประท้วงออกมาชุมนุมต้านรัฐประหารในเมืองต่างๆ อย่างเมืองพะโค มินลา ขิ่นอู และเมืองเดโมโซ หลังจากวันก่อนหน้ามีรายงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเมียนมาบุกเข้าไปยิงใส่ประชาชนที่กำลังร่วมงานศพนายแต หม่อง หม่อง นักศึกษาอายุ 20 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตในเมืองพะโค แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม

ภาพจากวิดีโอเผยให้เห็นชายผู้ประท้วงยิงปืนลมที่ทำเองเข้าตอบโต้ในระหว่างการเผชิญหน้ากับกองกำลังฝ่ายความมั่นคง ในเมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม (รอยเตอร์)

สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) ระบุยอดตัวเลขชาวเมียนมาที่ถูกฝ่ายความมั่นคงสังหารเสียชีวิต นับจากเกิดเหตุกองทัพยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ว่าได้พุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 460 ราย หลังจากเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ซึ่งเป็นวันกองทัพเมียนมา ได้กลายเป็นวันนองเลือดรุนแรงที่สุดนับจากเกิดเหตุรัฐประหาร โดยมีประชาชนผู้ประท้วงถูกตำรวจ ทหารเมียนมาสังหารไปมากถึง 114 ศพ

Advertisement
อาสากู้ภัยกำลังช่วยเหลือผู้ประท้วงที่ได้รับบาดเจ็บขณะหลบอยู่หลังกำแพงกระสอบทรายในเมืองโมนยวา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม (รอยเตอร์)

ด้านกลุ่มจีเอสซีเอ็น องค์กรที่เป็นแกนนำในการหยุดงานประท้วงในเมียนมา ได้ออกจดหมายเปิดผนึก โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้กองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับประชาชนชาวเมียนมาในการต่อต้านการปกครองที่กดขี่ของกองทัพ เสียงเรียกร้องนี้ยังมีขึ้นหลังจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการปะทะกันอย่างหนักระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ใกล้กับแนวชายแดนไทย ซึ่งรอยเตอร์อ้างกลุ่มนักเคลื่อนไหวและสื่อท้องถิ่นรายงานว่า การสู้รบกันดังกล่าวส่งผลให้มีชาวบ้านในฝั่งเมียนมาราว 3,000 คน อพยพเข้ามาฝั่งไทย หลังจากเครื่องบินรบของกองทัพเมียนมาทิ้งระเบิดโจมตีที่มั่นของเคเอ็นยู ซึ่งก่อนหน้านั้นกองกำลังเคเอ็นยูโจมตีที่มั่นทหารเมียนมาซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ภาพถ่ายที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นกลุ่มชาวบ้านจากหมู่บ้านในรัฐกะเหรี่ยงที่พากันหลบหนีเหตุปะทะออกมา รวมตัวกันอยู่ในที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่มีการระบุที่ตั้ง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม (รอยเตอร์)

ขณะที่ในวันอาทิตย์ (28 มี.ค.) มีรายงานเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังอิสรภาพกะฉิ่น (เคไอเอ) กับทหารเมียนมาบริเวณเหมืองหยกในเมืองพ่ากั่น รัฐกะฉิ่น ที่กองกำลังเคไอเอลงมือโจมตีสถานีตำรวจและที่มั่นทหารเพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศถล่มที่มั่นของกลุ่มตน โดยทั้งกองกำลังเคเอ็นยูและกองกำลังเคไอเอ เป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ประกาศสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร และเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาหยุดใช้ความรุนแรงเข้าประหัตประหารประชาชนผู้ประท้วง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image