ผู้แทนพิเศษร้องยูเอ็นเอสซีสกัดฆาตกรรมหมู่ในเมียนมา
นางคริสตีน สกราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมา กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ว่าจวนเจียนจะเกิดการฆาตกรรมหมู่ในเมียนมา หลังกองทัพเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง
บูร์เกเนอร์กล่าวต่อที่ประชุมปิดของยูเอ็นเอสซีว่า กองทัพเมียนมาที่ยึดอำนาจไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ไม่มีความสามารถที่จะบริหารประเทศ พร้อมเตือนว่าสถานการณ์ในพื้นที่มีแต่จะยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ
“เราต้องพิจารณาเครื่องมือทุกอย่างที่มีเพื่อดำเนินการร่วมกันเป็นหมู่คณะ และต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง อะไรคือสิ่งที่ประชาชนเมียนมาสมควรได้รับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ใจกลางเอเชีย”บูร์เกเนอร์กล่าว
ผู้แทนพิเศษญูเอ็นย้ำว่า เอสซีจะต้องพิจารณามาตรการที่มีนัยสำคัญซึ่งเป็นไปได้จริง เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ เพราะขณะนี้จวนเจียนที่จะเกิดการฆาตกรรมหมู่ขึ้นในเมียนมา
ด้านบาร์บารา วูดวาร์ด เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรอังกฤษประจำยูเอ็น ซึ่งเป็นประเทศที่ผลักดันให้เอสซีหารือฉุกเฉินกรณีเมียนมา กล่าวว่า การใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อประชาชนเป็นสิ่งที่รับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง และประชาคมระหว่างประเทศต้องส่งสารที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว เอสซีควรต้องมีบทบาทตอบสนองในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดีนับจนถึงปัจจุบัน ยูเอ็นเอสซีได้มีแถลงการณ์ 2 ฉบับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา โดยเป็นการแสดงความวิตกกังวลและประณามการใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วง แต่ไม่ได้มีการประณามการยึดอำนาจโดยกองทัพ หรือขู่ที่จะดำเนินมาตรการใดๆ เพิ่มเติม เนื่องจากมีการคัดค้านจากจีน รัสเซีย อินเดีย และเวียดนาม
เอ็นจีโอในเมียนมาระบุว่า นับจนถึงขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจในเมียนมาแล้วอย่างน้อย 521 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการเสียชีวิตในวันกองทัพเมียนมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาถึง 141 ราย
