กล้องวงจรปิดเผยภาพ ผู้อพยพปล่อยเด็กลงจากกำแพงสูง 4 เมตร หวังให้ลูกได้อยู่ที่สหรัฐ
เมื่อวันที่ 2 เมษายน สำนักข่าวเอพีได้เผยแพร่คลิปกล้องวงจรปิดบริเวณชายแดนประเทศสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก ที่สามารถจับภาพชายจากฝั่งเม็กซิโกกำลังปล่อยตัวเด็กหญิงชาวเอกวาดอร์วัย 3 ขวบและ 5 ขวบจากกำแพงสูงราว 4.2 เมตรลงบนแผ่นดินสหรัฐที่เมืองซานตาเทเรซา รัฐนิวเม็กซิโก เพื่อให้เด็กทั้งสองได้อาศัยอยู่ที่สหรัฐโดยให้ไปพบกับแม่ของเด็กทั้งสองที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะโดดลงกำแพงและหนีกลับเข้าฝั่งเม็กซิโกไปพร้อมกับชายอีกคน
ขณะที่หลายฝ่ายกำลังถกเถียงกันเรื่องนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ ปัจจุบันมีผู้อพยพหลายพันคนจากเม็กซิโก อเมริกากลางและอีกหลายประเทศทางใต้ เดินทางเข้าสหรัฐผ่านพรมแดนประเทศเม็กซิโกทุกวัน หลายคนหนีจากความรุนแรงและความยากลำบากจากประเทศบ้านเกิด หลายคนหาโอกาสที่จะมีฐานะที่ดีขึ้น คนกลุ่มนี้สามารถเดินทางมาทางเรือผ่านทางแม่น้ำริโอกรานเดในเท็กซัสหรือผ่านทางบกบริเวณรัฐแคลิฟอร์เนีย แอริโซนา และนิวเม็กซิโก ผู้อพยพหลายคนเป็นเด็กที่เดินทางเพียงลำพัง ด้านเจ้าหน้าที่ชายแดนระบุว่าในเดือนกุมภาพันธ์มีเด็กมากกว่า 9,000 คนที่เดินทางเข้ามาโดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วย ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2019 ในขณะที่มีผู้เยาว์มากกว่า 11,000 คนที่เดินทางมาที่ชายแดนโดยลำพัง เด็กส่วนใหญ่ที่เดินทางมาตัวคนเดียวมักมีญาติอยู่ในสหรัฐ หากเด็กเหล่านั้นเด็กเกินกว่าจะจำชื่อหรือเบอร์โทรศัพท์ได้ พวกเขาก็จะมาพร้อมกับข้อมูลติดต่อที่เขียนอยู่ในกระดาษหรืออยู่บนตัว หลังจากถูกส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ชายแดน เด็กกลุ่มนี้จะถูกส่งตัวไปยังหน่วยบริการสังคมและสุขภาพ และสุดท้ายมักจะมีพ่อแม่หรือญาติที่ใกล้ชิดมารับไป
ผู้เยาว์ที่เดินทางมาเพียงลำพังจะได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในสหรัฐได้ เป็นเหตุให้พ่อแม่หลายคนส่งลูกไปผจญภัยในสหรัฐเพียงลำพัง ซึ่งส่วนใหญ่จบลงที่ศูนย์พักพิงซึ่งในขณะนี้มีผู้อยู่อาศัยมากเกินกว่าจะรับไหว
