ชาวเมียนมายังสู้! ใช้ดอกไม้-ประท้วงแบบกองโจร สู้กองทัพ

การประท้วงดอกไม้ในนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 2 เมษายน (รอยเตอร์)

ชาวเมียนมายังสู้! ใช้ดอกไม้-ประท้วงแบบกองโจร สู้กองทัพ

สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานสถานการณ์ไม่สงบในประเทศเมียนมาว่า ในวันที่ 2 เมษายนชาวเมียนมาในหลายหัวเมืองทั่วประเทศ ยังคงแสดงออกถึงการต่อต้านการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและปฏิเสธการอยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลทหารอย่างเข้มแข็งและกล้าหาญ ทั้งๆที่ต้องเผชิญกับการปราบปรามอย่างโหดเหี้ยมจนมีผู้เสียชีวิตแทบทุกวัน ในขณะที่ทางการเมียนมาก็ดำเนินความพยายามทุกอย่างเพื่อสกัดการชุมนุมและยับยั้งการเผยแพร่พฤติกรรมอำมหิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารด้วยการประกาศปิดการใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายทั้งหมดในเช้าวันเดียวกันนี้ จำกัดให้การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์หรือเคเบิลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลังการประกาศแบนอินเตอร์เน็ตดังกล่าว กลุ่มต่อต้านก็เริ่มเคลื่อนไหวกระจายข้อมูลเกี่ยวกับย่านความถี่วิทยุที่สามารถใช้ติดต่อกันได้, แหล่งการใช้งานเครือข่ายแบบออฟไลน์หรืออินทราเน็ต และจัดตั้งกลุ่มให้บริการข้อความสั้นเพื่อแจ้งข่าวด่วย เพื่อให้การสื่อสารภายในกลุ่มต่อต้านด้วยกันยังคงสามารถดำเนินต่อไป

รอยเตอร์ระบุว่า กองทัพเมียนมาไม่ได้อธิบายการห้ามการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตครั้งนี้ต่อผู้ให้บริการเครือข่ายไวไฟแต่อย่างใด ในขณะที่การใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือถูกสั่งห้ามไปตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
การปราบปรามการชุมนุมประท้วงด้วยความรุนแรงยังคงดำเนินต่อไป โดยเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ โมนยวากาเซตต์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ปักหลักซุ่มอยู่บนเนินนอกเมืองโมนยวา ตอนกลางของภูมิภาคสไกง์ ระดมยิงกระสุนจริงเข้าใส่ผู้ประท้วง เป็นเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โดย 2 รายในจำนวนนั้นบาดเจ็บสาหัส

ในขณะที่การประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศเปลี่ยนแปลงรูปแบบอีกครั้งในวันนี้ เมื่อชาวเมียนมาจำนวนมากพากันตอบสนองต่อการเรียกร้องของแกนนำให้ใช้รูปแบบ “ฟลาวเวอร์สไตรค์” เพื่อแสดงออกถึงการไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตและแสดงการต่อต้านกองทัพไปในตัว โดยการนำช่อดอกไม้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกุหลาบ พร้อมสโลแกนต่อต้านไปวางไว้ในพื้นที่สาธารณะ อาทิ ป้ายรถประจำทาง หรือจุดที่ผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งทำให้ป้ายรอรถประจำทางในย่างกุ้งแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยช่อกุหลาบประดับอยู่บนธงชาติเมียนมาพร้อมข้อความว่า “เมียนมากำลังหลั่งเลือด” และยังมีอีกหลายคนที่แสดงออกด้วยการชูช่อกุหลาบพร้อมกับชู 3 นิ้ว
ขิ่น ซะดา แกนนำผู้ประท้วงเมียน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กตอนเช้าวันเดียวกันนี้เรียกการประท้วงแบบใหม่นี้ว่าเป็น “การประท้วงด้วยดอกไม้” ซึ่งจะต่อด้วย “การประท้วงแบบกองโจร” บนท้องถนนในหลายๆ เมืองอีกด้วย

Advertisement

รายงานข่าวระบุว่าก่อนหน้าที่จะมีการตัดอินเตอร์เน็ต มีคลิปวิดีโอแพร่ระบาดไปทั่วโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วตั้งแต่ตอนดึกวันที่ 1 มีนาคม เป็นภาพกลุ่มเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ สวมหมวกกันน็อกและมีไรเฟิลติดมือครบถ้วน เตะและทุบตีผู้ประท้วงชายรายหนึ่งซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติไปแล้ว ก่อนหน้าที่ลากตัวในลักษณะนอนคว่ำหน้าครูดไปกับพื้นถนนเป็นเวลานานก่อนที่จะนำตัวผู้ชายรายดังกล่าวขึ้นรถเจ้าหน้าที่ไปในที่สุด ต่อด้วยภาพการจุดเทียนนับพันดวงไว้อาลัยผู้ถูกเจ้าหน้าที่สังหารระหว่างการประท้วง บนถนนสายหนึ่งซึ่งมืดมิด เป็นตัวอักษรความว่า “เราจะไม่มีวันยอมแพ้”

ด้านองค์การรณรงค์เพื่อเด็ก เซฟ เดอะ ชิลเดรน ออกแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์ในเมียนมาถือเป็นสถานการณ์ที่เป็นฝันร้ายสำหรับเด็กๆ เพราะมีเด็กและเยาวชนถูกทหารเมียนมาฆ่าไปแล้วกว่า 43 ราย โดยที่เหยื่อที่อายุน้อยที่สุดอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น

ในเวลาต่อมามีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งซึ่งให้การสนับสนุนผู้ชุมนุมประท้วงยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่เมืองตามุ บริเวณใกล้ชายแดนติดกับประเทศอินเดีย เป็นเหตุให้เสียชีวิต

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image