อังกฤษดับ 7 ราย หลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และพบลิ่มเลือด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน หน่วยงานกำกับดูแลทางด้านสาธารณสุขของอังกฤษ (เอ็มเอชอาร์เอ) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 7 ราย จาก 30 รายของผู้ที่เกิดภาวะลิ่มเลือดหลังได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเข้าไป จากที่ก่อนหน้านี้หน่วยงานกำกับดูแลด้านสาธารณสุขดังกล่าวเปิดเผยว่ามีผู้ที่เกิดภาวะลิ่มเลือดจำนวน 30 คนจากผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในอังกฤษทั้งหมด 18 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นผลข้างเคียงของวัคซีน
โดยหน่วยงานดังกล่าวได้เผยแพร่ข้อมูลว่า มีผู้ป่วย 22 คนที่พบภาวะหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะการเกิดลิ่มเลือดที่พบได้ไม่บ่อยนัก และมีอาการเกล็ดเลือดต่ำประกอบด้วย ซึ่งมีส่วนช่วยให้เกิดลิ่มเลือด นอกจากนี้ยังพบการเกิดลิ่มเลือดชนิดอื่นๆ พร้อมกับระดับเกล็ดเลือดที่ต่ำในผู้ป่วย 8 คน
อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิงจูน เรน ผู้อำนวยการเอ็มเอชอาร์เอ กล่าวว่า “ข้อดีต่างๆ ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และอาการแทรกซ้อนมีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงต่างๆ และประชาชนควรรับการฉีดวัคซีนต่อไป”
ทั้งนี้ ความกังวลต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศอื่นๆ อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์และแคนาดาจำกัดให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับผู้สูงอายุเท่านั้น โดยที่เยอรมนีมีการรายงานว่าพบผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน 31 คนและเสียชีวิต 9 คน จากทั้งหมด 2.7 ล้านคนที่ได้รับวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงอายุน้อยและหญิงวัยกลางคน
