ราคาน้ำมันในเอเชียร่วงหลัง‘โอเปก’เผยอาจไม่ลดกำลังผลิต

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ราคาน้ำมันในเอเชียร่วงลงเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม จากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังชาติสมาชิกสำคัญหลายแห่งในกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) ปฏิเสธการคาดการณ์ถึงการจำกัดผลผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนหน้า

นายบิจาน ซานกาเนห์ รัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านกล่าวเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมว่า อิหร่านต้องการผลิตน้ำมันให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดกลับมาถึงระดับก่อนหน้าที่จะโดนชาติตะวันตกคว่ำบาตรเมื่อ 13 ปีที่แล้ว

คำกล่าวแสดงความคิดเห็นดังกล่าวหมายความว่า อิหร่านจะไม่เข้าร่วมในความพยายามของโอเปกและรัสเซียที่จะจำกัดกำลังการผลิต ในการประชุมของกลุ่มซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศแอลจีเรียในเดือนหน้า ก่อนหน้านี้นายคาลิด อัล ฟาลีห์ รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ยังได้แสดงความคิดเห็นในเชิงว่าจะไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตเช่นกัน

ทั้งนี้ เมื่อเวลาราว 10.20 น. ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐร่วงลง 53 เซ็นต์ หรือ 1.11 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 47.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือร่วงลง 52 เซ็นต์ หรือคิดเป็น 1.04 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 49.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุด้วยว่า คำกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานกองทุนสำรองแห่งรัฐ หรือธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมแจ๊กสันโฮลของเฟด ในรัฐไวโอมิง สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆ นี้ ทำให้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น มีผลให้อุปสงค์ต่อน้ำมันในประเทศที่ค่าเงินอ่อนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐลดลง เนื่องจากทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้น