นักบินบราซิลเจ๋ง รอดตายนาน 38 วันในป่าแอมะซอน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายอันโตนิโอ เซนา นักบินรับจ้างวัย 36 เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 เมษายน ว่า ตนต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดหลังจากเครื่องบินที่ตนบินประสบอุบัติเหตุในป่าลึกแอมะซอนนานถึง 38 วัน มาได้ก็ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าดังกล่าว
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม ขณะที่นายเซนา ขับเครื่องบินเล็กเซสนา 210 ขนสินค้าบนเส้นทางบินประจำ จากเมืองอาเลนแกร์ ไปยังเหมืองทองผิดกฎหมายในป่าแอมะซอนซึ่งรู้จักกันในชื่อ “แคลิฟอร์เนีย” แต่ขณะที่กำลังบินผ่านป่าแอมะซอนที่ความสูง 1,000 เมตร เครื่องยนต์เกิดหยุดทำงานจึงตัดสินใจนำเครื่องลงจอดในหุบเขาแต่เกิดน้ำมันรั่วปกคลุมไปทั่วบริเวณ นายเซนาจึงรีบหยิบสิ่งที่จะเป็นประโยชน์อย่างกระเป๋าเป้ น้ำ 3 ขวด น้ำอัดลม 4 กระป๋อง ขนมปัง 1 ถุง เชือก อุปกรณ์ฉุกเฉิน โคมไฟและไฟแช็ก 2 อัน ก่อนจะรีบออกจากเครื่องบินอย่างเร็วที่สุด และเครื่องบินระเบิดไม่นานจากนั้นตามคาด
ในช่วง 5 วันแรกนายเซนาได้ยินเสียงเครื่องบินกู้ภัยที่กำลังตามหาเขาบินอยู่เหนือหัว แต่ต้นไม้ขึ้นหนาแน่นจนเจ้าหน้าที่อาจมองไม่เห็นตน หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์อีก จึงคาดว่าทีมกู้ภัยคงยุติค้นหาและคิดว่าตนคงตายไปแล้ว นายเซนาได้ใช้โทรศัพท์มือถือที่ยังพอมีแบตเตอรี่อยู่บ้างหาตำแหน่งของตนเองจากจีพีเอสและตัดสินใจเดินไปทางทิศตะวันออกราว 28 กิโลเมตร ได้พบทางขึ้น-ลงเครื่องบินที่คาดว่าเป็นของพวกลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายด้วย
นายเซนารอดชีวิตด้วยการเลือกกินผลไม้ตามที่ลิงกินและกินไข่นกทินาบู โดยในวันที่ 35 นายเซนาได้ยินเสียงเลื่อยไฟฟ้าและพบกับแคมป์ของคนเก็บถั่วป่า คนกลุ่มนี้ช่วยนายเซนาให้ติดต่อกับแม่และให้อาหารกับเสื้อผ้า
การเดินทางในป่าแอมะซอน 38 วัน ทำให้น้ำหนักลดไป 25 กิโลกรัม ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้นายเซนาตั้งมั่นว่าจะไม่ทำงานให้กับพวกผิดกฏหมายที่ทำลายป่าแอมะซอนอีกแล้ว
ทั้งนี้ นายเซนาเกิดที่เมืองซังตาไร เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวรทางแยกของแม่น้ำแอมะซอนและแม่น้ำตาปาฌอส นายเซนาเรียกตนเองว่าเป็นชาวพื้นถิ่นแอมะซอนและมีความรักต่อป่าฝนเขตร้อนแห่งนี้มาก แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้นายเซนาไม่มีทางเลือกนักจึงต้องทำงานให้กับเหมืองทองที่ผิดกฎหมายซึ่งทำลายป่าและแม่น้ำ