“แกร็บ”เดินทางลัด ควบรวมกิจการกับ บ.อเมริกันเพื่อเข้าวอลสตรีท สร้างมูลค่า1.24 ล้านล้าน
“แกร็บ” เจ้าของแอพพลิเคชันเรียกรถบริการสัญชาติสิงคโปร์ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับแวดวงธุรกิจด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเตรียมการนำหุ้นเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ผ่านการควบควมกิจการ (เมิร์จ) กับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์อเมริกัน ภายใต้ดีลธุรกิจที่ถูกประเมินมูลค่าไว้ถึงเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.24 ล้านล้านบาท ถือเป็นบริษัทจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเสนอขายหุ้นในตลาดสหรัฐอเมริกาด้วยมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
บริษัทที่ตกลงควบรวมกิจการกับแกร็บคือบริษัท อัลติมิเตอร์ โกรว์ธ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะ คือเพื่อการระดมทุนไปใช้เพื่อการควบรวมกิจการกับบริษัทอื่น (Special Purpose Acquisition Companies-SPACs) ซึ่งเป็นทางลัดสำหรับบริษัทที่ต้องการนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเสนอขายหุ้นครั้งแรกต่อตลาดหลักทรัพย์ (ไอพีโอ) โดยหลังการควบรวมกิจการกันแล้วเสร็จซึ่งคาดว่าจะเป็นในราวเดือนกรกฎาคมนี้ อัลติมิเตอร์ฯและแกร็บ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทโฮลดิง ที่จะจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 39,600 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่แกร็บจะได้รับเงินทุนเพื่อขยายกิจการจากการควบรวมกิจการครั้งนี้ราว 4,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับได้สิทธิในการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาได้ทันที
ก่อนหน้านี้ แกร็บ ถือเป็นบริษัทเทคโนโลยีสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์จากการประเมินในการระดมทุนเอกชนเมื่อปี 2019 ในปี 2020 ที่ผ่านมา แกร็บแจงรายได้สุทธิไว้ว่าอยู่ที่ 1,600 ล้านดอลลาร์ แต่ยังคงไม่มีกำไร ดำเนินกิจการอยู่ใน 8 ประเทศ ราว 400 เมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้ขยายธุรกิจจากบริการเรียกรถ เป็นการส่งอาหาร, ของชำ, ส่งพัสดุ, บริการชำระเงินดิจิทัล และอื่นๆ มีผู้ใช้บริการรวมกว่า 25 ล้านคน ณ เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา
