แม่แดนผู้ดีฮึด! อุ้มท้องลูกแฝดแม้รู้ไม่รอด หวังให้อวัยวะนางฟ้าน้อยต่อชีวิตผู้อื่น

หนูน้อยโฮปในอ้อมอกพ่อ (เครดิตภาพ นิวยอร์กโพสต์)

 

เอ็มมา ลี คุณแม่ชาวอังกฤษ วัย 32 ปี ตัดสินใจอุ้มลูกแฝดในครรภ์ต่อจนครบกำหนดคลอด แม้รู้ดีว่าหนึ่งในทารกแฝดชายหญิงในครรภ์จะต้องเสียชีวิตในไม่กี่นาทีหลังออกมาลืมตาดูโลก โดยหวังให้ลูกที่ไม่มีโอกาสรอดได้บริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตให้ผู้อื่น จากการรายงานของเว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา

ข่าวแจ้งว่า เอ็มมา และดรูว์ ผู้เป็นสามี วัย 51 ปี ได้รับการแจ้งจากแพทย์ขณะที่เธอตั้งครรภ์ทารกแฝดชายหญิงได้ 13 สัปดาห์ว่าหนึ่งในลูกแฝดมีอาการที่เรียกว่า ภาวะไม่มีสมองคือ สมองและกระโหลกศีรษะไม่พัฒนาเติบโต แพทย์จึงเสนอทางออกให้ทำแท้ง แต่เอ็มมาและสามีตัดสินใจที่จะอุ้มท้องทารกแฝดในครรภ์ต่อไปกระทั่งคลอด โดยหนูน้อย “โฮป” ทารกแฝดเพศหญิง ได้เสียชีวิตลงในอ้อมกอดของเอ็มมาหลังออกมาดูโลกได้เพียง 74 นาทีเท่านั้น ที่โรงพยาบาลแอดเดนบรูค ในเมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากนั้นเอ็มมาก็ได้บริจาคเซลไตและตับของโฮปให้แก่ผู้ที่ต้องการ

เอ็มมาบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่น่าเศร้าใจและไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เธอและสามีได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนูน้อยเท็ดดี้ ฮูลส์ตัน ทารกแรกเกิดชาวเมืองคาร์ดิฟฟ์ที่เผชิญปัญหาเดียวกัน โดยออกมาดูโลกได้เพียง 100 นาที ก่อนจะเสียชีวิตและได้บริจาคลิ้นหัวใจและไตให้แก่ผู้อื่นที่ต้องการ

Advertisement

เอ็มมาบอกอีกว่าการตั้งชื่อนางฟ้าตัวน้อยของเธอว่า”โฮป”นั้นง่ายมาก และเธอถือว่าโฮปยังอยู่ เพราะนางฟ้าตัวน้อยยังมีชีวิตอยู่ในร่างของคนอื่น ส่วน”จอช”ลูกชายแฝดของเธอปลอดภัยดีไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ

เอ็มมา ลี สามี และ จอช (เครดิตภาพ นิวยอร์กโพสต์)
เอ็มมา ลี สามี และ จอช (เครดิตภาพ นิวยอร์กโพสต์)

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image