ทหารเมียนมายิงถล่มค่ายลี้ภัยใกล้ไทย สหรัฐแซงก์ชันเพิ่ม 2 ท่อน้ำเลี้ยงกองทัพ

แฟ้มภาพ การประท้วงที่เมืองทวาย เมื่อวันที่ 15 เมษายน (รอยเตอร์)

ทหารเมียนมายิงถล่มค่ายลี้ภัยใกล้ไทย สหรัฐแซงก์ชันเพิ่ม 2 ท่อน้ำเลี้ยงกองทัพ

เมื่อวันที่ 22 เมษายน เว็บไซต์ เมียนมานาว รายงานว่า คณะกรรมการผู้ลี้ภัยแห่งรัฐฉาน (เอสเอสอาร์ซี) ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ลี้ภัยสงครามภายในประเทศ (ไอดีพี) ที่หลบหนีการสู้รบมารวมตัวกันอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย 6 แห่งในรัฐฉาน ติดต่อกับชายแดนไทย เปิดเผยว่า ทหารเมียนมาได้ระดมยิงปืนใหญ่พิสัยไกล เข้าใส่พื้นที่ใกล้กับผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 3 แห่งในช่วงสัปดาห์นี้ และแม้ว่าจะไม่มีผู้ลี้ภัยในค่ายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่ก็สร้างความหวาดผวาและต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

เหตุระดมยิงล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 08.30 น. ของวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อมีกระสุนปืนใหญ่ขนาด 81 ม.ม. 3 นัดระเบิดขึ้นหลังตกลงใส่พื้นที่ซึ่งห่างจากค่ายผู้ลี้ภัยดอยไตแลงเพียง 6 กิโลเมตร พื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับชายแดนบริเวณตรงกันข้ามกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนของไทย

ถัดจากนั้นอีกเพียง 2 ชั่วโมง กระสุนปืนใหญ่อีก 5 นัด ตกลงใกล้กับค่าย กุงจ่อฉาน ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนบริเวณอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่เพียง 3 กิโลเมตร โชคดีที่กระสุนเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่เกิดระเบิดขึ้น

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 และ 19 เมษายนที่ผ่านมา ก็มีกระสุนปืนใหญ่ขนาด 120 ม.ม. อีก 5 นัดตกใส่พื้นที่ทำการเกษตรหุบบางแคว ซึ่งห่างจากค่ายผู้ลี้ภัยดอยก่อวัน เพียง 2 กิโลเมตร แม้ว่าจะมีกระสุนเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่เกิดระเบิดขึ้น แต่ก็ทำให้ชาวไทยใหญ่ราว 2,500 คนในค่ายนอนไม่หลับ เก็บข้าวของเตรียมพร้อมหลบหนีในกรณีที่ถูกกองทหารเมียนมาบุกโจมตี

Advertisement

ค่ายผู้ลี้ภัยดอยก่อวัน เป็นค่ายผู้หนีภัยสงครามภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดในจำนวน 6 แห่งในรัฐฉาน ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับจังหวัดเชียงรายของไทย ทั้งนี้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว กองทัพเมียนมาที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้ส่งจดหมายแจ้งต่อกองทหารของไทยว่า เตรียมการที่จะโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ สภาเพื่อการฟื้นฟูรัฐฉาน โดยที่ค่ายผู้ลี้ภัยทั้งหมดตั้งอยู่ใกล้เคียงกับฐานที่มั่นดังกล่าว

นายสาย เลง ตัวแทนของเอสเอสอาร์ซี เปิดเผยด้วยว่ากองทัพเมียนมาส่งกำลังทหาราบเบาอย่างน้อย 6 กองพัน กับทหารอีกอีก 1 กองพันเข้ามาเสริมกำลังในพื้นที่นี้ ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของค่ายผู้ลี้ภัยก็ถูกขนาบด้วยกองกำลังกองทัพว้าแดงอีกด้วย

ด้านรอยเตอร์รายงานในวันเดียวกันนี้ว่า โครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) แห่งสหประชาชาติ จัดทำรายงานวิเคราะห์สถานการณ์อาหารในเมียนมา ระบุว่า ชาวเมียนมาอีกมากถึง 3.4 ล้านคนจะตกอยู่ในสภาพไม่มีอาหารเพียงพอในช่วงระหว่าง 3 เดือนถึง 6 เดือนข้างหน้า โดยสภาพดังกล่าวจะกระทบผู้คนในเขตเมืองมากที่สุด เพราะตกอยู่ในสภาพตกงาน จากการปิดโรงงานการผลิต, ไม่มีงานก่อสร้างและภาคบริการต่างๆ ในขณะที่ราคาอาหารถีบตัวสูง อันเป็นผลมาจากการรัฐประหารของกองทัพ ที่ทำให้เกิดวิกฤตทางการเงินขึ้นตามมา โดยที่ก่อนหน้าการรัฐประหาร ชาวเมียนมาที่อยู่ในสภาพปราศจากความมั่นคงด้านอาหารมีมากถึง 2.8 ล้านคนอยู่ก่อนแล้ว

Advertisement

นายสตีเฟน แอนเดอร์สัน ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอฟพีประจำเมียนมา ระบุว่า จำเป็นต้องร่วมมือกันตอบสนองต่อสถานการณ์นี้เพื่อบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้นให้ลดลงและป้องกันไม่ให้สถานการณ์เสื่อมทรุดลงไปมากกว่านี้ โดยประเมินว่าจำเป็นต้องขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 3.3 ล้านคนในเมียนมา ด้วยงบประมาณสูงถึง 106 ล้านดอลลาร์

ดับเบิลยูเอฟพีระบุว่า ราคาข้าวและน้ำมันปรุงอาหารในเมียนมาสูงขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์และ 18 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเหตุให้ชาวบ้านในนครย่างกุ้ง จำเป็นต้องลดมื้ออาหารลง หรือเลือกกินอาหารที่ไม่มีโภชนาการมากยขึ้นในขณะที่ต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อซื้อหาอาหารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ระบบธนาคารหยุดชะงัก สาขาธนาคารหลายแห่งต้องปิดทำการ กระทบต่อธุรกิจที่ไม่มีเงินดำเนินกิจการและผู้บริโภคไม่สามารถถอนเงินมาจับจ่าย หลายครอบครัวต้องพึ่งพาเพียงแค่เงินจากญาติที่ทำงานในต่างประเทศ การส่งออกและนำเข้าแทบยุติโดยสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้ธนาคารโลกระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในเมียนมาในปีนี้จะติดลบสูงถึง 11 เปอร์เซ็นต์เพราะวิกฤตการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้

ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ประกาศแซงก์ชันบริษัทเมียนมาอีก 2 บริษัทเป็นการลงโทษเพิ่มเติมจากการก่อรัฐประหารและปราบปรามผู้ต่อต้านการรัฐประหารอย่างโหดเหี้ยม คือ บริษัทเมียนมา ทิมเบอร์ เอนเทอร์ไพรส์ (เอ็มทีอี) และ บริษัท เมียนมา เพิร์ล เอนเทอร์ไพรส์ ที่เป็นแหล่งสนับสนุนทางเศรษฐกิจต่อรัฐบาลทหารชุดนี้

นายแอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เตือนด้วยว่า สหรัฐจะดำเนินการลงโทษต่อเป้าหมายที่เป็นช่องทางทำรายได้สนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาต่อไป เพื่อเป็นการสนับสนุนชาวเมียนมาในการต่อต้านรัฐประหารครั้งนี้ และกดดันให้กองทัพยุติการใช้ความรุนแรงและปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมทั้งหมด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image