วิจัยอังกฤษชี้วัคซีนโควิดลดระบาด65%

แฟ้มภาพ วัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค (เอเอฟพี)

วิจัยอังกฤษชี้วัคซีนโควิดลดระบาด65%

รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 23 เมษายนนี้ว่า กระทรวงสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร(ยูเค) เผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยการใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสภาพความเป็นจริงในยูเค ที่แสดงให้เห็นว่า ผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้อัตราการแพร่ระบาดในหมู่ประชากรทั่วทุกช่วงอายุลดลงมากถึง 65 เปอร์เซ็นต์ภายใน 21 วันของการฉีดวัคซีนทั้งของแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์/ไบออนเทค เพียงเข็มเดียวเท่านั้น

ผลการศึกษาวิจัยดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยทีมวิจัยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการเก็บตัวอย่างเชื้อจากโพรงจมูกและลำคอมากกว่า 1.6 ล้านตัวอย่างจากผู้เข้าร่วมในการทดลอง 373,402 คน ในระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม ปีที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 3 เมษายนปีนี้

ผลการวิเคราะห์สรุปได้ว่า 21 วันหลังจากได้รับวัคซีน ไม่ว่าจะเป็น แอสตร้าเซนเนก้า หรือ ไฟเซอร์ โดยยังไม่มีการฉีดเข็มที่ 2 อัตราการติดเชื้อใหม่ลดลงมากถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่การติดเชื้อแล้วเกิดอาการ ลดลงมากถึง 74 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการลดลง 57 เปอร์เซ็นต์

ต่อมาเมื่อได้รับวัคซีนเข็มที่สอง อัตราการติดเชื้อและอัตราการติดเชื้อแล้วเกิดอาการ โดยรวมยิ่งลดน้อยลงไปอีก คืออยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์กับ 90 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ จัดว่ามีผลในการป้องกันการติดเชื้่อในระดับเดียวกันกับผู้ที่เคยผ่านการติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว

Advertisement

ในงานศึกษาวิจัยชิ้นที่สอง ซึ่งเป็นการตรวจสอบระดับของสารแอนติบอดีต่อต้านไวรัสก่อโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็มและ 2 เข็ม พบว่า การตอบสนองของแอนติบอดีในร่างกายของผู้สูงอายุจะต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อได้รับวัคซีน 1 เข็ม แต่ระดับแอนติบอดี จะขึ้นสู่ระดับสูงในทุกช่วงอายุ หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ในยูเคมีประชากรกว่า 33 ล้านคนได้รับวัคซีนเข็มแรก โดยมีกว่า 10 ล้านคนได้รับวัคซีนป้องกันโควิดทั้ง 2 เข็มเรียบร้อยแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image