มะกันไฟเขียวฉีดวัคซีนโควิด ออกนอกบ้านไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี) ผ่อนคลายมาตรการแนะนำเกี่ยวกับการสวมใส่หน้ากากอนามัยออกนอกเคหสถาน โดยกำหนดให้ผู้ที่รับวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดสแล้ว ไม่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอีกต่อไป เว้นแต่จะไปอยู่ในกลุ่มคนแปลกหน้าจำนวนมาก
กว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาซีดีซีแนะนำให้คนอเมริกันต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหสถาน หรืออยู่ในระยะ 6 ฟุตจากผู้อื่น แต่การเปลี่ยนแปลงคำแนะนำดังกล่าวมีขึ้นหลังจากขณะนี้ชาวอเมริกันกว่าครึ่งหนึ่ง หรือราว 140 ล้านคนได้ฉีดวัคซีนต้านโควิดอย่างน้อยหนึ่งโดสแล้ว และในจำนวนนี้มากกว่า 1 ใน 3 ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว
การตัดสินใจดังกล่าวยังมีขึ้นหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ รวมถึงผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตในสหรัฐเนื่องจากโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อจากการทำกิจกรรมภายนอกมีสัดส่วนน้อยกว่า 10%
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่าการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มดังกล่าวเป็นรางวัลและแรงจูงใจให้คนเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 มากขึ้น และถือเป็นหนึ่งในการค่อยๆ กลับไปสู่การใช้ชีวิตตามสภาวะปกติ
อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนยังคงได้รับคำแนะนำให้สวมใส่หน้ากากอนามัยในการออกไปรวมตัวเป็นกลุ่มเล็กๆ กับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนด้วยกัน นอกจากนี้ซีดีซียังแนะนำให้พวกเขาสวมใส่อนามัยเมื่อออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกับเพื่อนและกับครอบครัวอื่นๆ ด้วย
ซีดีซียังคงแนะนำให้ผู้ที่ได้รับหรือยังไม่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยในกิจกรรมกลางแจ้งที่มีคนจำนวนมาก เช่นคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬา รวมถึงการทำกิจกรรมในร่มในสถานที่สาธารณะ อาทิ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานที่ออกกำลังกาย ร้านทำผม พิพิธภัณฑ์ และโรงภาพยนตร์
