ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกา เสนอแผนให้มีการเก็บภาษีน้ำมันในอัตรา 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นการเคลื่อนไหวที่ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากอุตสาหกรรมพลังงานที่กำลังเสียศูนย์จากความกดดันเรื่องราคาน้ำมันต่ำ
ข้อเสนอดังกล่าวรวมอยู่ในแผนงบประมาณรายจ่ายที่สภาคองเกรสนำโดยพรรครีพับลิกันยืนยันว่า จะไม่มีทางได้บังคับใช้เป็นกฎหมาย แต่มีแนวโน้มว่าจะเป็นการบีบให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ต้องแสดงจุดยืนด้านพลังงานให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ด้านอุตสาหกรรมน้ำมันระบุว่า การเก็บภาษีดังกล่าว จะทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 25 เซ็นต์ต่อแกลลอน และทำให้การปฏิวัติด้านการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานพังทลายลง ขณะที่แกนนำพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสระบุว่า กฎหมายฉบับนี้ “แท้งตั้งแต่ยังไม่คลอด”
ทำเนียบขาวระบุว่า การเก็บภาษีน้ำมันนี้จะชักนำให้เกิดการลดใช้ระบบขนส่งที่พึ่งพาน้ำมัน และทำให้เกิดการนำเงินดังกล่าวมาใช้ในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นมากกว่าแทน
อย่างไรก็ตามรัฐบาลของโอบามายังไม่ได้ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าจะมีการเก็บภาษีนี้อย่างไร
