เมื่อวันที่ 3 กันยายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า วันเดียวกันนี้ ร่างของนายอิสลาม คาริมอฟ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ได้ถูกนำมาประกอบพิธีฝังที่เมืองซามาร์คานด์ อันเป็นบ้านเกิดของผู้นำอุซเบกิสถานที่กุมอำนาจปกครองประเทศมานานถึง 27 ปี หลังประธานาธิบดีคาริมอฟถึงแก่อสัญกรรมเมื่อคืนศุกร์(2 ก.ย.)ที่ผ่านมา ขณะมีอายุได้ 78 ปี จากภาวะเส้นโลหิตไปเลี้ยงสมองอุดตัน โดยหลังการประกอบพิธีศพที่จัดขึ้นที่จัตุรัสรีจิสถาน ในเมืองซามาร์คานด์ ที่มีผู้มาร่วมพิธีศพจำนวนหลายร้อยคน นำโดยนายชาฟคาต มีร์ซีโยเยฟ นายกรัฐมนตรีอุซเบกิสถาน รวมถึงผู้นำจากหลายประเทศ อาทิ นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ประธานาธิบดีทาจิกิสถานและประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถาน จากนั้นร่างของนายคาริมอฟได้ถูกเคลื่อนเพื่อนำไปฝังยังสุสานชาห์-อี-ซินดาต่อไป
วันเดียวกัน รัฐบาลได้เปิดเผยรายงานทางการแพทย์เกี่ยวกับการถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีคาริมอฟ โดยระบุว่าผู้นำอุซเบกิสถานเกิดอาการเส้นโลหิตไปเลี้ยงสมองอุดตันรุนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อนและหมดสติไปนับแต่นั้น ก่อนที่จะเสียชีวิตลงหลังจากที่หัวใจหยุดเต้นเป็นครั้งที่ 2 ในคืนวันที่เสียชีวิต ซึ่งคณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถยื้อชีวิตผู้นำอุซเบกิสถานไว้ได้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีคาริมอฟในสายตาชาติตะวันตกมองว่าเขาเป็นผู้นำเผด็จการอำนาจที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ในอุซเบกิสถานที่เคยเป็นดินแดนในอดีตสหภาพโซเวียต คาริมอฟถือเป็นผู้นำประเทศเพียงคนเดียวที่พวกเขารู้จัก และการจากไปของนายคาริมอฟได้ก่อให้เกิดภาวะสุญญากาศทางการเมือง ซึ่งเป็นที่จับจ้องกันว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำกุมบังเหียนในอุซเบกิสถานต่อไป
