มะกันรำลึก 1 ปีโศกนาฏกรรม ‘จอร์จ ฟลอยด์’
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ตามเวลาในสหรัฐ ได้มีการจัดงานเพื่อรำลึกถึง 1 ปีหลังการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสีที่ถูกตำรวจเมืองมินนิแอโปลิส ใช้หัวเข่ากดลงไปที่คอขณะควบคุมตัวกระทั่งเสียชีวิต
สมาชิกในครอบครัวของฟลอยด์ได้ร่วมกันจัดให้มีการสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยเพื่อ “เฉลิมฉลองต่อการมีชีวิต” ในสวนสาธารณะกลางเมืองมินนิแอโปลิส โดยในงานมีการจัดดนตรี ฟู้ดทรัค รวมถึงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19
ขณะที่ห่างไปอีกไม่ไกลในบริเวณสี่แยกที่ฟลอยด์เสียชีวิต ผู้คนอีกหลาย 10 คนโดยร่วมกันคุกเข่าลงเป็นเวลาหลายนาทีเพื่อสะท้อนถึงช่วงเวลา 9 นาที 29 วินาทีที่ฟลอยด์ถูกตำรวจกดหัวเข่าลงไปที่คอ กระทั่งขาดอากาศตาย
ขณะที่สมาชิกในครอบครัวฟลอยด์บางส่วนได้เดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน เพื่อพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนางคาเมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้ซึ่งร่วมกันเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งผ่านร่างกฎหมายภายใต้ชื่อของฟลอยด์ เพื่อนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในสหรัฐ
ขณะเดียวกันยังมีการจัดการไว้อาลัยเพื่อเป็นเกียรติแก่ฟลอยด์ในนิวยอร์ก และการเดินขบวนเพื่อรำลึกถึงฟลอยด์ในลอสแอนเจลิส เช่นเดียวกับในเยอรมนีที่มีการเดินขบวนในโอกาสดังกล่าว
การเสียชีวิตของฟลอยด์ได้ปลุกกระแสความไม่พอใจไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐที่ทำให้เกิดการรณรงค์เคลื่อนไหว “แบล็ก ไลฟ์ แมทเธอร์” ขึ้นตามมา
ด้านนายดีเรค ชอวิน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมดังกล่าว เพิ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฆาตกรรมและอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา