สหรัฐสัญญาจะพัฒนาความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ พร้อมช่วยกาซาสร้างเมือง
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริการะบุภายหลังการประชุมกับผู้นำปาเลสไตน์ที่เวสต์แบงค์ว่า รัฐบาลสหรัฐให้คำมั่นว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ โดยการเปิดกงสุลสหรัฐในกรุงเยรูซาเล็มของอิสราเอลอีกครั้งเพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อทางการทูตกับปาเลสไตน์ และจะช่วยสร้างบ้านเรือนในฉนวนกาซาที่เสียหายจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา
รัฐบาลภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน จะยื่นเรื่องของบประมาณสนับสนุนจากสภาคองเกรสเป็นเงิน 75 ล้านดอลลาร์ (2,346 ล้านบาท) ซึ่งแบ่งเป็นเงินช่วยเหลือทันที 5.5 ล้านดอลลาร์ (172 ล้านบาท) และอีก 32 ล้านดอลลาร์ (1,001 ล้านบาท) ให้กับสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ (ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ)
นอกจากนี้นายบลิงเคนยังได้พบกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลที่กรุงเยรูซาเล็ม ระหว่างการเยือนตะวันออกกลางเป็นเวลา 3 วัน และเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า จะให้ความสำคัญกับความมั่นคงของอิสราเอล และได้หารือถึงเรื่องการสร้างสันติภาพ ความปลอดภัย ศักดิ์ศรีสำหรับทุกคน
บลิงเคนยังทวีตว่า ตนได้หารือเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับปาเลสไตน์ให้แน่นแฟ้นขึ้น ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดี มาห์มุด อับบาส และนายกรัฐมนตรี โมฮัมหมัด ชเตย์เยห์ของรัฐบาลปาเลสไตน์ที่เมืองรอมัลลอฮ์ ในเวสต์แบงค์
ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของปาเลสไตน์ระบุกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า มีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการเปิดสำนักงานประสานงานองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐขึ้นอีกครั้ง หลังถูกปิดไปในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้มีประชาชนมากกว่า 250 คนถูกสังหารในการต่อสู้ทั้ง 11 วันระหว่างทหารกาซากับอิสราเอล เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในฉนวนกาซา
