สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านการอนุรักษ์เปิดเผยว่า ช่วงเวลาหลายทศวรรษในความพยายามอนุรักษ์ของจีนส่งผลออกมาแล้วสำหรับแพนด้ายักษ์ หรือหมีแพนด้า ที่ได้รับการยกระดับสถานะจาก “ใกล้สูญพันธุ์” เป็น “เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์” จากการที่มีจำนวนประชากรแพนด้าเพิ่มขึ้น ในการประชุมของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) จัดขึ้นที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา
สถานการณ์ที่ดีขึ้นของแพนด้ายักษ์ได้รับการประกาศโดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงบัญชีแดงของไอยูซีเอ็น ที่ถือเป็นบัญชีบอกจำนวนประชากรพืชและสัตว์ที่ครอบคลุมมากที่สุดของโลก
การประเมินล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามีประชากรแพนด้าที่โตเต็มวัยแล้ว 1,864 ตัว แม้ว่าจะยังไม่ใช่จำนวนที่แน่ชัด แต่หากรวมลูกแพนด้าเข้าไปด้วยน่าจะอยู่ที่ราว 2,060 ตัวในปัจจุบัน
แต่สถานการณ์ของลิงกอริลลาตะวันออกหรือลิงกอริลลาภูเขานั้นกลับกัน โดยกอริลลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกชนิดนี้ตกอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์จากการเพิ่มขึ้นของการล่าสัตว์ผิดกฎหมายในคองโก และตอนนี้มีสถานะเป็น “สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์” โดยมีจำนวนเหลืออยู่แค่ 5,000 ตัวเท่านั้น ทำให้ตอนนี้ กอริลลา 4 จาก 6 สายพันธุ์ตกอยู่ในความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งนอกจากกอริลลาตะวันออกแล้วยังมีลิงกอริลลาตะวันตก ลิงอุรังอุตังบอร์เนียว และลิงอุรังอุตังสุมาตรา ขณะที่ลิงชิมแปนซี และลิงชิมแปนซีแคระหรือลิงโบโนโบ ถูกจัดอยู่ในหมวด “ใกล้สูญพันธุ์”