เวียดนามผวา เจอโควิดพันธุ์ใหม่ ลูกผสมเชื้อกลายพันธุ์อินเดีย-อังกฤษ ชี้แพร่เร็วที่สุดเหนือเชื้อทุกตัว

REUTERS/Kham/File Photo

เวียดนามผวา เจอโควิดพันธุ์ใหม่ ลูกผสมเชื้อกลายพันธุ์อินเดีย-อังกฤษ ชี้แพร่เร็วที่สุดเหนือเชื้อทุกตัว

รอยเตอร์และเอเอฟพี รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม นายเหวียน ทันห์ ลอง รัฐมนตรีสาธารณสุขเวียดนาม แถลงว่า ทางการเวียดนามได้ตรวจสอบพบ โควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ในเวียดนาม ซึ่งสามารถแพร่ระบาดไปในอากาศได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีขีดความสามารถในการแพร่ระบาดสูงมาก ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดภายในประเทศเป็นกลุ่มก้อนพร้อมๆ กันในหลายๆ พื้นที่ของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศ 6,856 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 47 ราย

นายเหวียน ทันห์ ลอง ระบุว่า เชื้อกลายพันธุ์ใหม่ที่พบในเวียดนามในขณะนี้ มีลักษณะทางพันธุกรรม ผสมกันระหว่างเชื้อกลายพันธุ์ (แวเรียนท์) ที่พบครั้งแรกในอินเดีย (บี.1.617.2) กับเชื้อกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอังกฤษ (บี.1.1.7 หรือ สายพันธุ์เคนท์)

“เชื้อกลายพันธุ์ใหม่ที่พบซึ่งเป็น สายพันธุ์อินเดีย ที่มีการกลายพันธุ์ซึ่งแต่เดิมเป็นของ สายพันธุ์กลายพันธุ์ที่อังกฤษ นั้น อันตรายอย่างยิ่ง” รัฐมนตรีสาธารณสุขเวียดนามระบุในระหว่างประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆ นี้ โดยระบุด้วยว่า เวียดนามเตรียมเผยแพร่ แผนที่พันธุกรรมของสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ใหม่นี้ในเร็วๆ นี้ โดยเชื่อว่า เวียดนามแวเรียนท์นี้ สามารถแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์กลายพันธุ์อื่นๆ ที่ผ่านมาทุกชนิด

“คุณลักษณะสำคัญของแวเรียนท์นี้ก็คือ มันแพร่ไปในอากาศได้เร็วมาก ปริมาณของเชื้อที่พบในของเหลวในลำคอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และแพร่ระบาดรุนแรงมากต่ออาณาบริเวณที่แวดล้อม” นายเหวียน ทันห์ ลอง กล่าว

Advertisement

ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศการพบเชื้อกลายพันธุ์เวียดนามดังกล่าว ทีมวิจัยด้านพันธุกรรมของเวียดนามตรวจสอบพบเชื้อกลายพันธุ์รวม 7 ชนิดแพร่อยู่ในเวียดนาม ประกอบด้วย บี.1.1.17 หรือเคนท์แวเรียนท์, บี.1.617.2 หรือ อินเดีย แวเรียนท์, บี.1.222, บี.1.619, บี.1.351, ดี614จี, และ เอ.23.1 แต่มีเพียง เชื้อกลายพันธุ์จากอังกฤษและอินเดียเท่านั้น ที่ถูกองค์การอนามัยโลก กำหนดให้เป็น เชื้อกลายพันธุ์ที่น่าวิตก (แวเรียนท์ ออฟ คอนเซิร์น-วีโอซี)

นางมาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ หัวหน้าทีมเทคนิคการแพทย์โควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก ยอมรับว่า ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินขีดความสามารถของเชื้อกลายพันธุ์เวียดนามที่ปรากฏอยู่ในรายงานข่าวได้ อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของดับเบิลยูเอชโอ ประจำสำนักงานในเวียดนามกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขของที่นั่นทำให้คาดหวังได้ว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเร็วๆ นี้

นางฟาน เคอร์โคฟ ระบุว่า เท่าที่เข้าใจก็คือ แวเรียนท์ใหม่ที่พบที่เวียดนามนั้น คือ เชื้อกลายพันธุ์จากอังกฤษ (บี.1.1.7) แต่เดิม แต่มีการกลายพันธุ์เพิ่มในจุดเดียวกับที่เคยพบในการกลายพันธุ์เป็นเชื้ออินเดีย (บี.1.617.2) นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ทางดับเบิลยูเอชโอ พร้อมที่จะเผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติมในทันทีที่ได้รับ

นายเหวียน ทันห์ ลอง เปิดเผยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ทางการเวียดนามจะจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติมจากที่ได้รับภายใต้โครงการโคแวกซ์ ที่อนามัยโลกสนับสนุน 10 ล้านโดส โดยจะจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค เพิ่ม 20 ล้านโดส และสปุตนิค วี อีก 40 ล้านโดส นอกเหนือจากที่กำลังเร่งพัฒนาวัคซีนในท้องถิ่นอีกด้วย

ทั้งนี้ในขณะนี้เวียดนามฉีดวัคซีนให้กับประชากรไปแล้วราว 1 ล้านคนจากจำนวนประชากรทั้งหมดราว 97 ล้านคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image