อิสราเอลกลับมาใส่แมสก์อีกรอบ หลังพันธุ์เดลต้าระบาด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลประกาศให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิดอีกครั้ง หลังจากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งหลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง 10 วันก่อน
นายนาชมัน แอช หัวหน้าศูนย์รับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 กล่าวผ่านวิทยุว่า มาตรการดังกล่าวถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งหลังจากมีผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่า 100 คนต่อวันเป็นเวลา 4 วัน โดยในวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อใหม่ถึง 227 คน
นายแอชระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นคาดว่าเป็นผลมาจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย
การกลับมาใช้มาตรการสวมหน้ากากอีกครั้งเหมือนเป็นความพ่ายแพ้สำหรับอิสราเอล หลังจากที่เพิ่งยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนนี้เอง เนื่องจากประสบความสำเร็จในการระดมฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ชาวอิสราเอลราว 5.2 ล้านคนได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคครบ 2 โดสแล้ว และแม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นแต่จำนวนผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม
นายแอชระบุว่า เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องของเวลา เวลายังผ่านไปไม่นานพอ แต่หวังว่าวัคซีนจะช่วยป้องกันการป่วยหนักหรือความจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลได้
นอกจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขยังแนะนำให้ชาวอิสราเอลสวมแมสก์ในสถานที่ที่มีคนหนาแน่นด้วยแม้จะอยู่นอกอาคารก็ตาม เช่นงานไพรด์ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ที่กรุงเทลอาวีฟ
ด้านนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตเตือนถึงการเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในอิสราเอลซึ่งอาจเกิดจากนักท่องเที่ยวที่กลับมาและพาเชื้อสายพันธุ์อื่นเข้ามาด้วย
