สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 กันยายนว่า ชาติสมาชิกอียูหลายประเทศที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน อาจเรียกร้องขอส่วนแบ่งจากเงินภาษีย้อนหลังที่แอปเปิล บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติสหรัฐต้องจ่ายให้กับรัฐบาลไอร์แลนด์มูลค่า 13,000 ล้านยูโร (ราว 500,000 ล้านบาท) ได้
เมื่อเดือนที่แล้ว กรรมาธิการด้านการแข่งขันของอียู มีคำสั่งให้แอปเปิลต้องจ่ายภาษีย้อนหลังให้กับไอร์แลนด์ คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 13,000 ล้านยูโร ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวสร้างความโกรธเคืองให้กับรัฐบาลสหรัฐเป็นอย่างมาก และล่าสุด กรรมธิการของอียูเปิดเผยว่า สมาชิกอียูประเทศอื่นๆ อาจเรียกร้องส่วนแบ่งจากเงินภาษีก้อนนี้ได้ด้วย
“หากว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณแน่ใจได้เลยว่าในฐานะรัฐมนตรีคลังผมจะขอรับเงินส่วนแบ่งก้อนนี้ด้วย” นายฮันส์ ยอร์ก เชลลิง รัฐมนตรีคลังออสเตรียกล่าวนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีคลังอียูที่กรุงบราติสลาวา ประเทศสโลวะเกีย และว่า “ออสเตรียเฝ้าจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด” พร้อมทั้งเปิดเผยด้วยว่า ชาติสมาชิกอียูอื่นๆ ซึ่งรวมถึงอิตาลี พิจารณาถึงการได้รับเงินก้อนนี้ด้วย
คำตัดสินดังกล่าวของกรรมาธิการอียูระบุว่า รัฐบาลไอร์แลนด์มอบเงื่อนไขพิเศษด้านการเสียภาษีให้แอปเปิลที่มองได้ว่าเป็นความช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่งผิดกฎของอียู
นางมาร์เกรอเธ เวสเตเกอร์ กรรมาธิการด้านการแข่งขันของอียู ระบุว่า การดำเนินกิจการของแอปเปิลในไอร์แลนด์เป็น “เรื่องหลอกลวง” ที่ออกแบบมาใช้สำหรับเป็นช่องทางการหลีกเลี่ยงภาษีจากรายรับที่ได้จากทั่วอียู พร้อมระบุว่า แอปเปิลจ่ายภาษีนิติบุคคลในอัตราเพียง 0.005 เปอร์เซ็นต์จากกำไรที่ได้ในยุโรปเมื่อปี 2557 หรือคิดเป็นเท่ากับจ่ายภาษี 50 ยูโรต่อรายได้ 1 ล้านยูโรเท่านั้น
ด้านแหล่งข่าวในรัฐบาลสเปนเปิดเผยว่า สเปน ซึ่งตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ยากลำบากด้านการเงิน และอาจถูกปรับจากการทำผิดกฎข้อบังคับด้านงบประมาณรายจ่ายของอียู ระบุว่า กำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการรับส่วนแบ่งเงินค่าปรับก้อนนี้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาไอร์แลนด์ลงมติว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของกรรมาธิการด้านการแข่งขันของอียูหลังการอภิปรายอย่างดุเดือด
