เกาหลีใต้เล็งยกมาตรการคุมเข้มสูงสุด หลังสายพันธุ์เดลต้า ปั่นยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง

ชาวเกาหลีใต้ยืนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด ที่จุดบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ชั่วคราว บริเวณสถานีรถไฟในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม (รอยเตอร์)

เกาหลีใต้เล็งยกมาตรการคุมเข้มสูงสุด หลังสายพันธุ์เดลต้า ปั่นยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีใต้ต้องขยายเวลาคุมเข้มการเคลื่อนย้ายของประชาชนในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบออกไปอีกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์และกำลังพิจารณาผลักดันมาตรการเข้มงวดสูงสุดเพื่อควบคุมสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่วันเดียวกันนี้เกาหลีใต้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นมา 1,212 ราย นับเป็นวันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันเดียวของเกาหลีใต้นับจากเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งมีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้เพิ่งทำการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในบางพื้นที่ของประเทศไปเพียงไม่กี่วันก่อนหน้า หลังจากที่มีการเร่งกระจายฉีดวัคซีนให้กับประชาชน

นายคิม บู คยอม นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวว่า การระบาดรอบ 4 ของเกาหลีใต้ที่เป็นผลจากเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลต้า กำลังแพร่ลามไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนช่วงอายุ 20-30 ปีที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงควรต้องรับการตรวจหาเชื้อไว้ก่อน ซึ่งไม่เพียงเป็นการปกป้องตนเอง แต่ยังรวมถึงทุกคนในครอบครัว เพื่อนฝูง โรงเรียนและประเทศ โดยหากสถานการณ์ยังไม่อยู่ภายใต้การควบคุม หลังจากการเฝ้าระวังใน 2-3 วันนี้ เราก็อาจไม่มีทางเลือก นอกจากจะบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างสังคมที่มีทั้งหมดอย่างเข้มงวดที่สุด

ด้านประธานาธิบดีมุน แช อิน ได้สั่งการให้กองทัพระดมกำลังเข้าร่วมสมทบในการช่วยตรวจหาเชื้อและเร่งให้เจ้าหน้าที่จัดตั้งศูนย์ตรวจหาเชื้อโควิดเพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีประชากรอยู่หนาแน่น
ทั้งนี้ราว 30% ของประชากรเกาหลีใต้ที่มีราว 52 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 โดส และมีเพียงแค่ 10% ที่ฉีดครบ 2 โดส ขณะที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 162,753 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2,033 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image