เกาหลีใต้เพิ่มมาตรการคุมเข้มเกือบทั่ว ปท. สกัดโควิด หลังยอดติดเชื้อรายใหม่พุ่งทุบสถิติ

แฟ้มภาพรอยเตอร์

เกาหลีใต้เพิ่มมาตรการคุมเข้มเกือบทั่ว ปท. สกัดโควิด หลังยอดติดเชื้อรายใหม่พุ่งทุบสถิติ

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีใต้คุมเข้มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มข้นยิ่งขึ้นให้ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั่วประเทศ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ลุกลามไปมากขึ้น จนทำให้เกาหลีใต้เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันอังคาร (13 ก.ค.) พุ่งขึ้นสูงสุดอีกครั้งที่จำนวน 1,615 ราย ทุบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ (9 ก.ค.) ที่ผ่านมา ที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในวันดังกล่าว 1,378 ราย

ท่ามกลางความวิตกกังวลกับการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลต้า และการกระจายฉีดวัคซีนที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าในประเทศ

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคดีซีเอ) ของเกาหลีใต้ระบุว่า คลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้แพร่ลามไปอย่างรวดเร็วในกรุงโซลและพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า

นายคิม บู คยอม นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ กล่าวว่า นับจากวันพฤหัสฯ (15 ก.ค.)นี้ไป รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดกับมาตรการเว้นระยะห่างในพื้นที่ต่างๆ เกือบทั่วทั้งประเทศ ยกเว้นภูมิภาคทางตอนใต้บางพื้นที่ ให้เป็นระดับ 2 จากที่มีทั้งสิ้น 4 ระดับ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

Advertisement

โดยภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างระดับ 2 กำหนดห้ามประชาชนรวมตัวกันเกิน 8 คน และร้านอาหารและบาร์จะต้องปิดไม่เกินเที่ยงคืน

อย่างไรก็ตาม มาตรการเว้นระยะห่างดังกล่าวยังต่ำกว่ามาตรการคุมเข้มสูงสุดในระดับ 4 ที่มีการกำหนดห้ามการรวมตัวกันเกิน 2 คน หลังเวลา 18.00 น. ซึ่งมีการบังคับใช้ในนครบาลกรุงโซลเมื่อวันจันทร์ (12 ก.ค.)
เคดีซีเอระบุว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อย่างตัวเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ที่มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ในเกาหลีใต้คิดเป็น 30.7% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาระหว่างวันที่ 4-10 กรกฎาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้เกาหลีใต้ยังมีจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยอาการหนักน้อยกว่าการระบาดก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มที่มีความเปราะบางในเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโรควิดแล้ว

Advertisement

ทั้งนี้ เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 171,911 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2,048 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image