ท่ามกลางวิกฤตการไหลบ่าของผู้พยพที่เกิดขึ้นทั่วโลก ล่าสุดสมาชิกรัฐสภาเดนมาร์กกำลังจะพิจารณาลงมติรับร่างกฏหมายใหม่ในปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งอนุญาตให้มีการยึดทรัพย์สินของผู้ที่ขอสถานะผู้ลี้ภัยในเดนมาร์กที่มีมูลค่ามากกว่า10,000โครเนอร์หรือราว 54,000 บาท อย่างไรก็ดีสิ่งของที่มีค่าทางจิตใจ อาทิ แหวนแต่งงานจะไม่ถูกยึดแต่อย่างใด
ข้อเสนอดังกล่าวถูกมองว่าไม่ต่างจากการที่นาซีปฏิบัติต่อชาวยิวในช่วงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทั้งยังถูกประณามจากหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติรวมถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ และยังขัดกับความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ลี้ภัย โฆษกยูเอ็นเอสซีอาร์ระบุว่า ผู้อพยพต้องสูญเสียทั้งบ้านและทุกสิ่งที่มีจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าใครยังต้องการที่จะแย่งชิงสิ่งที่พวกเขามีเหลืออยู่เพียงน้อยนิดในชีวิตได้ทั้งที่ผู้ลี้ภัยควรได้รับความเห็นใจความเคารพ และความเมตตา
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กยืนยันว่าร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเข้าใจผิดมากที่สุด ด้านรัฐมนตรีการรวมชาติของเดนมาร์กระบุว่ามาตรการดังกล่าวเป็นเพียงการทำให้ผู้ลี้ภัยและผู้อพยพอยู่ในสถานะเดียวกับคนไร้งานทำในเดนมาร์กซึ่งต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่ซึ่งมูลค่าเกินจำนวนที่กำหนดก่อนที่จะขอรับสิทธิในการให้ความช่วยเหลือได้โดยเงินที่ได้จากทรัพย์สินเหล่านั้นจะถูกนำไปช่วยจ่ายค่าบ้าน ค่าดูแลสุขภาพ รวมถึงการศึกษา
ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเดนมาร์กได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการไหลบ่าของผู้อพยพ หลังจากที่เพื่อนบ้านอย่างสวีเดนได้นำมาตรการควบคุมชั่วคราวที่แนวชายแดนมาใช้เช่นกัน นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าเดนมาร์กนำมาตรการดังกล่าวมาบังคับใช้เพื่อลดปริมาณผู้พยบที่จะเข้ามาขอสถานะผู้ลี้ภัยในประเทศโดยในปีที่ผ่านมามีผู้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยในเดนมาร์ก21,000 ราย
