แฉโทรศัพท์ 5 หมื่นหมายเลขทั่วโลก ถูกสปายแวร์ยิวแฮก!
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สื่อระดับโลกหลายสำนัก รวมทั้ง วอชิงตันโพสต์, เลอ มง และ เดอะ การ์เดียนรายงานพร้อมกัน เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ กล่าวหากลุ่มบริษัท เอ็นเอสโอ จากอิสราเอล ซึ่งเป็นผู้ผลิตและให้บริการซอฟท์แวร์สำหรับการทำจารกรรมข้อมูลหรือสปายแวร์ชื่อ “เพกาซัส” ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจาะระบบและลักลอบเก็บข้อมูลต่างๆของโทรศัพท์ 50,000 เลขหมายซึ่งใช้กันอยู่กว่า 50 ประเทศทั่วโลก มีตั้งแต่หมายเลขของบุคคลตั้งแต่ผู้นำประเทศจนถึงผู้บริหารธุรกิจจนกังวลกันว่าอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดกฎหมายและสิทธิส่วนบุคคลตามมา
ข้อมูลที่เผยแพร่ดังกล่าว เป็นผลงานการวิจัยและสืบสวนสอบสวนของผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “ฟอร์บิดเดน สตอรีส์” องค์กรไม่แสวงกำไรของผู้สื่อข่าวที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสร่วมกับองค์การนิรโทษกรรมสากล (เอไอ) โดยระบุว่า โทรศัพท์ 50,000 หมายเลขดังกล่าวเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลซึ่งเป็นลูกค้าของเอ็นเอสโอต้องการเจาะแต่ไม่รู้แน่ชัดว่ามีกี่หมายเลขถูกเจาะและล้วงข้อมูลไปแล้ว
รายงานดังกล่าวเปิดเผยเพียงหมายเลขโทรศัพท์ แต่จากการศึกษาข้อมูลต่อของหลายสำนักข่าวสามารถระบุได้กว่า 1,000 หมายเลขว่าเป็นของผู้ใด ซึ่งมีตั้งแต่หลายเลขหมายที่เป็นของเชื้อพระวงศ์อาหรับ, ของนักธุรกิจระดับผู้บริหารอย่างน้อย 65 ราย, นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน 85 ราย, ผู้สื่อข่าว 189 ราย, นักการเมืองและเจ้าหน้าที่ทางการกว่า 600 รายซึ่งมีทั้งที่เป็นประมุข, นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลอีกด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วกระจุกอยู่ใน 10 ประเทศคือ อาร์เซอร์ไบจาน, บาห์เรน, ฮังการี, อินเดีย, คาซักสถาน, เม็กซิโก, โมร็อกโก, รวันดา, ซาอุดีอาระเบีย, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
วอชิงตันโพสต์ระบุว่า จากการวิเคราะห์ด้วยกระบวนการพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัลของ 37 หมายเลข พบว่า หมายเลขเหล่านั้นตกเป็นเป้าและถูกเจาะระบบสำเร็จแล้ว โดยมีหมายเลขของสตรี 2 คนที่ใกล้ชิดกับ จามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีที่ถูกสังหารเมื่อปี 2018 รวมอยู่ด้วย
สปายแวร์เพกาซัส เป็นซอฟท์แวร์เจาะระบบที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถเปิดกล้อง, ไมโครโฟนของโทรศัพท์เป้าหมายได้จากระยะไกล ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดในเครื่องได้ ในบางกรณีมันสามารถติดตั้งตัวเองลงในเครื่องโดยไม่ต้องล่อหลอกให้เป้าหมายดาวน์โหลดแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ตกเป็นข่าวอื้อฉาวมาหลายครั้ง รวมทั้งถูกบริษัทวอทส์แอพพ์ฟ้องร้องดำเนินคดีในสหรัฐกล่าวหาเอ็นเอสโอว่า ใช้แพลทฟอร์มวอทส์แอพพ์เพื่อจารกรรมข้อมูล
เอ็นเอสโอ ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาในรายงานของ ฟอร์บิดเดน สตอรีส์ ทั้งหมด โดยอ้างว่าเป็นการสรุปเอาเองโดยปราศจากหลักฐาน และเตรียมดำเนินคดีต่อผู้จัดทำรายงานชิ้นนี้ ในขณะที่อ้างว่าบริษัทขายซอฟท์แวร์ให้กับทางการและหน่วยงานของรัฐเพื่อ “รักษาชีวิตผู้คนจากอาชญากรรมทั้งหลาย” เท่านั้น
