ผลวิจัยชี้ วัคซีน J&J ประสิทธิภาพต่ำกว่า ไฟเซอร์-โมเดอร์นา ในการต้านสายพันธุ์เดลต้า

ภาพรอยเตอร์

ผลวิจัยชี้ วัคซีน J&J ประสิทธิภาพต่ำกว่า ไฟเซอร์-โมเดอร์นา ในการต้านสายพันธุ์เดลต้า

ฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า ผลการศึกษาของนักวิจัยที่นำโดยนายนาธาเนียล แลนเดา นักไวรัสวิทยาจากโรงเรียนการแพทย์กรอสแมน แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้ ชี้ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และ บริษัทโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพมากถึง 94%-95% ในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ของโรคโควิด-19 อย่างสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งสูงกว่าวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ( J&J) ที่ใช้ไวรัสอะดีโนดัดแปลงพันธุกรรม(adenoviral vector-based) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ 67%

นายแลนเดาเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ว่าเป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้เพื่อดูว่าวัคซีนของทั้ง 3 บริษัทนี้ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินจากหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐแล้วนั้น สามารถก่อภูมิต้านทานโรคในการยับยั้งป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ได้มากน้อยเพียงไร ซึ่งจากการศึกษาพบว่าวัคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อนี้เป็นวัคซีนที่ดี สามารถเพิ่มภูมิต้านทานในการต่อต้านเชื้อกลายพันธุ์ได้ แต่วัคซีน 2 โดส(ของไฟเซอร์และโมเดอร์นา) สร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นได้ดีกว่าวัคซีนJ&J (ที่ใช้เพียงโดสเดียว) แต่วัคซีน J&J จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นหากฉีดเข็มสองเพิ่ม

อย่างไรก็ดีถ้อยแถลงของ J&J ที่ส่งถึงฟ็อกซ์นิวส์ ระบุว่า ผลการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าวัคซีนต้านโควิดเพียงโดสเดียวของ J&J นั้นมีประสิทธิภาพ 85% ในการป้องกันอาการรุนแรงและป้องกันได้เป็นอย่างดียิ่งต่อการต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต ในส่วนการศึกษาของนายแลนเดานั้นไม่ได้ระบุถึงภาพรวมของการก่อภูมิคุ้มกันทั้งหมด ซึ่งข้อมูลเพิ่มเติมของทางบริษัทแสดงให้เห็นว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ของ J&J ที่ใช้เพียงโดสเดียว ให้การต้านทานอย่างแข็งแกร่งต่อการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วของสายพันธุ์เดลต้าและเชื้อกลายพันธุ์อื่นๆ

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image