ออสซี่ระอุ! ม็อบฮือต้านล็อกดาวน์ ปะทะตำรวจ โดนรวบอื้อ
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาวออสเตรเลียจำนวนหลายพันคน ออกมาชุมนุมต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ของทางการใน 2 เมืองใหญ่สุดของประเทศ โดยมีรายงานผู้ประท้วงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปหลายคนในนครซิดนีย์ หลังจากเกิดการปะทะกับตำรวจอย่างรุนแรง
ที่นครซิดนีย์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ กลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจม้าที่ควบคุมดูสถานการณ์อยู่ ซึ่งมีการขว้างปากระถางต้นไม้ ขวดน้ำ และสีเข้าใส่ ขณะกลุ่มผู้ประท้วงเข้ายึดท้องถนนเพื่อแสดงการต่อต้านคำสั่งล็อกดาวน์ในนครซิดนีย์ที่ให้ประชาชนงดออกจากบ้านนานนับเดือน
ในนครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ผู้ประท้วงหลายพันคนรวมตัวกันบนถนนหลังชุมนุมกันอยู่หน้ารัฐสภามาตั้งแต่หลังเที่ยง ผู้ประท้วงหลายคนไม่สวมหน้ากากร่วมกันต่อต้านมาตรการจำกัดการเดินทางที่ไม่จำเป็นและห้ามรวมตัวกัน หลังจากเมื่อวันก่อนหน้าทางการออกมาระบุว่า มาตรการจำกัดเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นอาจจะต้องบังคับใช้ต่อไปจนถึงเดือนตุลาคม
กลุ่มผู้จัดการชุมนุมเรียกขานการออกมาประท้วงครั้งนี้ว่าเป็นการชุมนุมเพื่อ “อิสรภาพ” และมีการรณรงค์เคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย
ทางการส่งเฮลิคอปเตอร์บินตรวจตราสถานการณ์เหนือนครซิดนีย์ ที่มีประชากรอยู่ราว 5 ล้านคน และกำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า
วันเดียวกันนี้ ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 163 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในซิดนีย์ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2,000 คน
โดยขณะนี้ครึ่งหนึ่งของประชากรในออสเตรเลียที่มีราว 25 ล้าน ตกอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้ในหลายเมือง ขณะที่มีประชากรเพียงแค่ 11% เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว