โลกร้อน ภัยร้ายใกล้ตัวกว่าที่คิด
ภาพเหตุการณ์ภัยพิบัติร้ายแรงเหล่านี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลกในช่วงระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate change ที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดทั้งคลื่นความร้อนและไฟป่าในพื้นที่ยุโรปและอเมริกาเหนือ และฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในยุโรปตะวันตกและจีน
เว็บไซต์npr.orgระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างสถานการณ์ที่มีความร้อนสูงกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศว่า “โลกร้อนขึ้นราวๆ 2 องศาฟาเรนไฮต์แล้ว ตัวเลขนี้ฟังดูน้อย แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยนสถิติของเหตุการณ์ที่มีความร้อนสูงได้อย่างมาก” ดร. แรดลีย์ ฮอร์ตัน นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียกล่าว และว่า”เหตุการณ์อันตรายที่เกิดจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและความชื้นที่สูงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเป็นสองเท่าของที่เคยเป็นมาในอดีต”
สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อการเกิดไฟป่าอย่างชัดเจน โดยขณะนี้ราว 95% ของพื้นที่ทางตะวันตกของสหรัฐอยู่ในภาวะแห้งแล้ง และมีวัฏจักรที่ชัดเจนที่ซึ่งความร้อนทำดินและพืชพรรณแห้งไปหมด ดังนั้นเมื่อเกิดไฟป่าขึ้น ไฟป่าก็ไหม้แรงขึ้นและสามารถสร้างระบบสภาพอากาศของตัวเองขึ้นได้ คือมีเมฆไพโรคิวมูลัสขนาดมหึมาซึ่งสามารถสร้างสายฟ้าฟาดได้ นั่นหมายความว่ามันทำให้เกิดไฟไหม้มากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนก็ส่งผลต่อน้ำท่วมฉับพลันด้วย แม้ว่าน้ำท่วมจะเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ต้นเหตุก็เหมือนกัน นั่นคือการเกิดฝนตกหนัก และสิ่งนี้กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเมื่อโลกร้อนขึ้น เพราะอากาศร้อนรวมกับน้ำร้อนก็คือความชื้นในอากาศที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ขณะที่โลกร้อนขึ้น แบบจำลองสภาพภูมิอากาศบางชิ้นก็แสดงให้เห็นถึงลมในบรรยากาศชั้นบนที่ชะลอตัวในบางพื้นที่ ซึ่งหมายความว่าสภาพอากาศที่รุนแรงสุดขั้วจะคงอยู่ที่นั่นนานขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อคาดการณ์ว่าภัยพิบัติเหล่านี้จะเกิดขึ้นบ่อยเพียงใดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า