ไอเอ็มเอฟคาดการณ์เศรษฐกิจโลกโต 6% ความเหลื่อมล้ำจะสูงขึ้น
เว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า ช่องว่างระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจนกำลังกว้างขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนต่ำในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ซึ่งนำไปสู่การฟื้นตัวของโลกที่ไม่สมดุล
อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟยังคงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2021 นี้อยู่ที่ 6% ในรายงาน World Economic Outlook ฉบับล่าสุด ส่วนใหญ่เป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา ที่คาดว่าจะเติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เล็กน้อย ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนาคาดว่าจะชะลอตัวลง โดยไอเอ็มเอฟชี้ว่าการแพร่กระจายของเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดได้ง่ายขึ้นเป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งทางไอเอ็มเอฟยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทำงานร่วมกันเพื่อเร่งปกป้องพลเมืองของตนด้วย
นอกจากนี้ไอเอ็มเอฟยังได้คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2022 ว่าจะแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ด้วยการขยายตัว 4.9% นำโดยประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวที่ 4.4%
ไอเอ็มเอฟระบุด้วยว่าการกลายพันธุ์ของไวรัสยังคงเป็นความท้าทายที่น่ากลัวที่สุดที่เศรษฐกิจโลกเผชิญอยู่ ซึ่งหากเกิดการระบาดของสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อสูง อาจทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจล้มเหลวและทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)หายไป 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ (150 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2025
