นิวซีแลนด์ขยายเวลาล็อกดาวน์ทั่วปท. เหตุติดโควิดพุ่ง ลามถึงเมืองหลวง
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศไปจนถึงเที่ยงคืนวันที่ 24 สิงหาคม เพื่อควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากนิวซีแลนด์มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นและยังลามระบาดออกจากเมืองโอ๊คแลนด์ ที่เป็นศูนย์กลางการระบาด ไปถึงกรุงเวลลิงตันแล้ว
นิวซีแลนด์ไร้การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กระทั่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์สั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วันเมื่อวันอังคาร(17 ส.ค.)ที่ผ่านมา และสั่งปิดเมืองโอ๊คแลนด์เป็นเวลา 7 วัน หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นรายแรกของประเทศนับจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อาร์เดิร์นประกาศขยายการล็อกดาวน์ประเทศ โดยชี้ว่าการระบาดได้แพร่ไปยังเมืองอื่นๆ ซึ่งเรายังไม่รู้ถึงการระบาดอย่างเต็มรูปแบบของสายพันธุ์เดลต้า
“เราต้องการให้ทั้งประเทศเฝ้าระวังอย่างสูงไว้ตอนนี้” อาร์เดิร์นกล่าว
ด้านกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในวันศุกร์(20 ส.ค.)นี้ จำนวน 11 ราย ในจำนวนนี้ 3 รายอยู่ในกรุงเวลลิงตัน ซึ่งเป็นผู้ที่เพิ่งเดินทางไปเมืองโอ๊คแลนด์และไปยังพื้นที่มีการระบาดของโรคเมื่อเร็วๆนี้
แอชลีย์ บลูมฟิลด์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนด้วยว่าอาจมีการขยายล็อกดาวน์เมืองโอ๊คแลนด์ออกไปอีกด้วย
ที่ผ่านมาอาร์เดิร์นได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในการบริหารจัดการควบคุมสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศผ่านยุทธศาสตร์ต่างๆ การล็อกดาวน์ที่เข้มข้นและการปิดพรมแดนระหว่างประเทศของนิวซีแลนด์ในเดือนมีนาคม 2020
แต่ตอนนี้รัฐบาลของเธอกำลังเผชิญกับคำถามถึงความล่าช้าในการกระจายวัคซีน ตลอดจนการพึ่งพาแรงงานอพยพมากเกินไป
ทั้งนี้มีชาวนิวซีแลนด์เพียงราว 19% เท่านั้น จากประชากรทั้งสิ้นราว 5.1 ล้านคน ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ถือเป็นอัตราต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี)ด้วยกัน
