ยอดติดโควิดออสซี่พุ่ง ตำรวจปะทะม็อบนัดชุมนุมต้านล็อกดาวน์ จับหลายร้อย ปรับสูง 1.3 แสน
เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียออกตรวจตราไปทั่วท้องถนน และปิดกั้นการเดินทางเข้ามายังใจกลางนครซิดนีย์ในวันนี้ (21 ส.ค.) เพื่อสกัดแผนการชุมนุมประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ที่กำหนดจะมีขึ้นในวันเดียวกัน
ทั้งนี้ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 1,500 นาย ลาดตระเวนบนท้องถนนในนครซิดนีย์ ขณะที่รถไฟถูกสั่งให้วิ่งผ่านสถานีหลัก ทั้งยังมีคำสั่งห้ามการเดินทางโดยใช้รถร่วมกันในซิดนีย์อีกด้วย
ความพยายามดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ทางการได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิคตอเรียที่ 886 คนในหนึ่งวัน ซึ่งสูงที่สุดเท่าเคยมีมา โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดในนครซิดนีย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า
สื่อออสเตรเลียรายงานด้วยว่ามีการวางแผนที่จะจัดการประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ที่เมืองเมลเบิร์น ซึ่งมุขมนตรีรัฐวิคตอเรียได้ขยายมาตรการล็อกดาวน์ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศรายใหม่ถึง 61 คน
ล่าสุดมีรายงานว่าเกิดเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงทั้งที่นครซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์น โดยที่เมลเบิร์นตำรวจใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่ หลังผู้ชุมนุมพยายามมากกว่า 4,000 คนฝ่าแนวต้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนที่นครซิดนีย์ตำรวจปราบจราจลยังสกัดกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนไม่มากไม่ให้รวมตัวกัน
ต่อมามีรายงานว่าตำรวจได้จับกุมกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนทั้งที่ในนครซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์น โดยที่รัฐวิคตอนเรียซึ่งมีเมืองเอกคือเมลเบิร์นตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงไป 218 คน และยังมีการเรียกค่าปรับ 236 ราย ส่นอีก 3 คนถูกตั้งข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ถูกจับกุมต้องเสียค่าปรับเนื่องจากละเมิดข้อห้ามด้านสาธารณสุขคนละเกือบ 130,000 บาทด้วย
ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งมีซิดนีย์เป็นเมืองเอกมีการตั้งข้อหาละเมิดข้อห้ามด้านสาธารณสุขและต่อต้านการจับกุม 47 คน และมากกว่า 260 คนถูกปรับตามฐานความผิดที่ต่างกัน โดยมีรายงานว่ามีผู้ประท้วงในซิดนีย์ราว 250 คน
