ผลศึกษาเกาหลีใต้พบ คนติดเชื้อเดลต้า มีปริมาณไวรัสสูงกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม 300 เท่า
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างผลการศึกษาของเกาหลีใต้พบว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้ง่ายและรวดเร็วนั้น มีปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายสูงกว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 300 เท่าเมื่อสังเกตอาการพบครั้งแรก
อย่างไรก็ดี สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคดีซีเอ) ของเกาหลีใต้ที่เปิดเผยผลการศึกษานี้ระบุว่า ปริมาณของเชื้อไวรัสจะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เหลือ 30 เท่าใน 4 วัน และ 10 เท่าใน 9 วัน และปริมาณเชื้อไวรัสจะลดลงอยู่ในระดับเดียวกับเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์อื่นๆ หลังผ่านไป 10 วัน
อี ซาง วอน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ กล่าวว่า ปริมาณเชื้อไวรัสที่มีมากนั่นหมายความว่าการแพร่เชื้อไวรัสจากคนสู่คนได้ง่ายมากขึ้น ทำให้เกิดการติดเชื้อและการต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าสายพันธุ์เดลต้าจะทำให้มีโอกาสติดเชื้อมากถึง 300 เท่า ซึ่งเราคิดว่าอัตราการแพร่เชื้ออยู่ที่ 1.6 เท่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อัลฟา และราว 2 เท่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม
โดยการศึกษานี้ของเกาหลีใต้เป็นการศึกษาเปรียบเทียบปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าจำนวน 1,848 ราย กับผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นจำนวน 22,106 ราย และเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้านี้ซึ่งพบเป็นครั้งแรกในอินเดียและกำลังเป็นสายพันธุ์ที่พบแพร่หลายทั่วโลกนั้น เคดีซีเอได้ร้องขอให้ชาวเกาหลีใต้เข้ารับการตรวจหาเชื้อในทันทีเมื่อพบมีว่ามีอาการของโรคโควิด-19 และหลีกเลี่ยงพบปะกัน
ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ (23 ส.ค.) ที่ผ่านมา เกาหลีใต้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในประเทศจำนวน 1,509 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของเกาหลีใต้เพิ่มเป็น 239,287 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2,228 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสให้กับประชาชนไปแล้ว 51.2% จากประชากรในประเทศทั้งสิ้น 52 ล้านคน และ 23.9% ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
