ระเบิดคาบูลคร่า 73 ชีวิต มะกันทำลายคลังอาวุธทิ้ง
เหตุระเบิดฆ่าตัวตายสองครั้งร่วมกับการโจมตีของมือปืนเข้าใส่ฝูงชนที่ประตูทางเข้าสนามบินในกรุงคาบูลวานนี้ ทำให้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 73 ราย โดยเป็นชาวอัฟกานิสถานอย่างน้อย 60 ราย และทหารสหรัฐ 13 นาย
การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ชาติตะวันตกได้ออกมาเตือนภัยว่าจะมีการโจมตีครั้งใหญ่ที่สนามบิน และขอให้ทุกคนเดินทางออกไป แต่ดูเหมือนคำเตือนเหล่านั้นจะไม่มีผลต่อชาวอัฟกานิสถานที่ยังคงดิ้นรนเพื่อหาทางอพยพออกนอกประเทศ ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนจะถึงกำหนดเส้นตายที่สหรัฐจะยุติปฎิบัติการทางทหารในอัฟกานิสถานที่ยาวนานถึง 20 ปี ลงในวันที่ 31 สิงหาคมนี้
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ แถลงยืนยันท่าทีที่ทำเนียบขาวว่า เหตุนองเลือดครั้งล่าสุดนี้จะไม่ทำให้สหรัฐออกจากอัฟกานิสถานเร็วกว่าที่กำหนดไว้ แต่สหรัฐจะไม่ให้อภัยและไม่ลืม และจะล่าตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังมารับโทษ
เบื้องต้นทางการสหรัฐระบุว่ามีบุคลากรเสียชีวิต 12 นาย โดยเป็นทหารเรือ 11 นาย และเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ทหารเรือหนึ่งนาย ต่อมาได้มีการประกาศปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตขึ้นอีกหนึ่งนาย ทำให้จำนวนทหารสหรัฐที่เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 13 นาย และยังมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีก 18 นาย ขณะที่เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานระบุว่า มีชาวอัฟกานิสถานมากกว่า 140 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ และยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นกว่านี้อีก
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า เหตุระเบิดครั้งหนึ่งเกิดขึ้นใกล้กับประตูทางเข้าของสนามบิน ขณะที่ระเบิดอีกครั้งหนึ่งเกิดขึ้นใกล้กับโรงแรมบารอนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากสนามบินมากนัก โดยโรงแรมดังกล่าวเป็นสถานที่ที่คนจำนวนมาก ตั้งแต่ชาวอเมริกัน ชาวอังกฤษ และชาวอัฟกานิสถาน ได้รับคำแนะนำให้ไปรวมตัวกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ด้านโฆษกของทาลิบันออกมาให้ข่าวหลังได้ยินเสียงระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งในกรุงคาบูล หลังจากเหตุโจมตีฝูงชนที่พยายามจะอพยพออกจากอัฟกานิสถานเพียงไม่กี่ชั่วโมงว่า เป็นเสียงระเบิดที่เกิดจากการที่กองทัพสหรัฐได้ทำลายคลังอาวุธยุทธภัณฑ์ทิ้ง
