มะกันลั่นอพยพคนพ้นอัฟกานิสถานจนนาทีสุดท้าย แม้หวั่นเหตุโจมตีซ้ำ
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สหรัฐอเมริกาประกาศจะทำการอพยพชาวอัฟกันที่สิ้นหวังออกจากกรุงคาบูลต่อไป แม้ว่ามีความห่วงกังวลว่ากลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) จะก่อเหตุโจมตีอีก
ขณะที่รายงานหลายแหล่งในกรุงคาบูลระบุถึงจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตูระเบิดโจมตีสนามบินฮามิด คาร์ไซในกรุงคาบูลเมื่อวันพฤหัสบดี (26 ส.ค.) ที่ผ่านมาว่ามีจำนวนมากถึง 170 ราย
เพนตากอนหรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่ายังคงมีภัยคุกคามที่น่าเชื่อได้ว่าจะเกิดขึ้นอีกที่สนามบินในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน
ขณะที่ชาติส่วนใหญ่ในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้ยุติเที่ยวบินอพยพของตนเองลงแล้ว โดยฝรั่งเศสยุติการอพยพลงในวันศุกร์ (27 ส.ค.) หลังจากทำการอพยพผู้คนไปได้เกือบ 3,000 คน โดยชี้ว่าสถานการณ์ด้านความมั่นคงกำลังเลวร้ายลง ท่ามกลางเส้นตายที่สหรัฐจะยุติการอพยพและการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานทั้งหมดภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้
ขณะที่โฆษกกลุ่มทาลิบันที่ยึดอำนาจปกครองอัฟกานิสถานไว้ได้ประกาศว่าทาลิบันได้เข้าควบคุมพื้นที่หลายส่วนของสนามบินในคาบูลไว้แล้ว แต่ถูกเพนตากอนโต้แย้ง โดยระบุว่ายังมีประชาชนอยู่ในสนามบินกว่า 5,000 คน ที่รอการอพยพออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่าได้ดำเนินมาตรการร่วมกับกลุ่มทาลิบันเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย
ทำเนียบขาวระบุว่าได้มีการอพยพผู้คนออกไปจากอัฟกานิสถานแล้วกว่า110,000 คน นับจากเริ่มการอพยพทางอากาศเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน และว่า ภารกิจสำคัญลำดับแรกคือการอพยพพลเมืองชาวอเมริกันที่ต้องการออกจากอัฟกานิสถานและจะดำเนินทุกวิถีทางในการนำพวกเขาไปยังสนามบินโดยปลอดภัย
ด้านนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษชี้ว่าเหตุระเบิดโจมตีสนามบินในคาบูล เป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตายที่เดินเข้าไปในฝูงชนที่ประตูหนึ่งของสนามบิน ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่าไม่มีเหตุระเบิดโจมตีครั้งที่2 ที่โรงแรมใกล้กับสนามบินอย่างที่มีการคิดกันก่อนหน้านี้
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเตือนว่าจะมีการก่อวินาศกรรมโจมตีขึ้นอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่าไม่กี่วันข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ซึ่งกองกำลังสหรัฐกำลังพุ่งเป้าไปที่กลุ่มไอเอส
ทั้งนี้เครือข่ายไอเอสที่เรียกตนเองว่า ไอเอส โคราซาน หรือไอเอส-เค เป็นกลุ่มที่ประกาศอ้างเป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดถล่มสนามบินในคาบูลครั้งนี้เอง
