‘ดอน’ โต้คนอภิปรายด้อยค่าซิโนแวคเพื่อประโยชน์ส่วนตน ยัน กต.-สธ. ร่วมมือหาวัคซีนใกล้ชิด

‘ดอน’ โต้คนอภิปรายด้อยค่าซิโนแวคเพื่อประโยชน์ส่วนตน ยัน กต.-สธ. ร่วมมือหาวัคซีนใกล้ชิด

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนไทยของกระทรวงการต่างประเทศ หลังมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวไปอภิปรายในรัฐสภาว่า การที่ผู้อภิปรายในสภากล่าวพาดพิงถึงวัคซีนซิโนแวคนั้น เป็นเรื่องที่คลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริงหลายประการ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งที่ข้อมูลที่นำเสนอในสภาเป็นข้อมูลที่นำมาจากข่าวตัดเก่าๆ ที่พาดพิงกล่าวอ้างถึงเท่านั้น ไม่ใช่หลักฐานข้อเท็จจริงที่แน่ชัด โดยการนำมาใช้ก็เพื่อผลทางการเมืองเพียงประการเดียว ไม่ได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและความถูกต้องใดๆ

“ประเทศจีนเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งกับไทยมาเป็นเวลายาวนาน มีความปรารถนาดีและความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดตลอดมา เป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งสองรัฐบาลให้ความสำคัญในทุกมิติ  กรณีของคุณภาพวัคซีนซิโนแวคนั้น เป็นวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกได้ให้การรับรองแล้ว และมีประเทศอีก 39 ประเทศทั่วโลกได้ให้การรับรองและนำไปฉีดให้กับประชาชนอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็วและได้ผลทันท่วงทีมาแล้ว”นายดอนกล่าว

นายดอนกล่าวว่า ซิโนแวคเป็นวัคซีนที่ออกมารุ่นแรกๆ ที่สามารถผลิตออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว และนำไปใช้และร่วมผลิตในหลายประเทศ ซึ่งปรากฎประสิทธิภาพมาแล้วว่าได้ผลในการระงับยับยั้งการติดเชื้อโควิดได้ดีตามเป้าหมาย โดยมีผลข้างเคียงน้อย เพราะใช้เชื้อตายเป็นพื้นฐานในการพัฒนาวัคซีน ซึ่งหมายความว่าพิษร้ายจากเชื้อตายนี้ต่อร่างกายจะมีน้อยหรือไม่มีเลย จึงมีความปลอดภัยสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญด้วย เนื่องจากวัคซีนทุกชนิดในขณะนั้นเป็นวัคซีนที่อยู่ในขั้นทดลองและนำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินเท่านั้น

นายดอนกล่าวอีกว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนไซโนแวคไปแล้วในโลกมีหลายร้อยล้านคน และวัคซีนของประเทศจีนทุกชนิดก็มีการนำไปใช้แพร่หลายทั่วโลกกว่า 90 ประเทศ ยกเว้นในทวีปอเมริกาเหนือซึ่งที่จะใช้วัคซีนของตนเองที่ผลิตด้วยวิธีการต่างกันคือ mRNA เป็นส่วนใหญ่ และในยุโรปก็มีวัคซีนชนิด viral vector ที่คิดค้นได้โดยบริษัทแอสตราเซเนกาของอังกฤษ ที่นำมาใช้อย่างแพร่หลายในยุโรป

Advertisement

รองนรม.และรมว.กต.กล่าวว่า สำหรับเรื่องราคาของวัคซีนนั้นวงการแพทย์จะทราบดีว่าราคาของวัคซีนที่ใช้เชื้อตายจะสูงกว่าชนิดอื่น เนื่องจากมีกระบวนการในการผลิตที่ยากลำบากกว่า แต่ประเทศจีนก็สามารถผลิตออกมาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยประสิทธิภาพสูงที่คุ้มครองให้ประชาชนมากมายในหลายประเทศทั่วโลกรอดพ้นจากการติดเชื้อได้ในระยะแรกๆ ของการระบาดรุนแรงมาแล้ว รวมทั้งไทยที่ได้ใช้เป็นวัคซีนชนิดแรกในเดือนกพ.ปีนี้

“ความพยายามกล่าวด้อยค่าเพียงเพื่อประโยชน์ส่วนตน จึงไม่เพียงแต่เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและคุณค่าวัคซีนซิโนแวค แต่ส่งผลกระทบต่อมิตรประเทศที่ดีของไทยที่มีความร่วมมือกันใกล้ชิดที่ก่อประโยชน์อย่างมากในหลาย ๆ ด้านต่อประชาชนของทั้งสองฝ่าย”นายดอนกล่าว

นายดอนกล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับนโยบายและบัญชาจากนายกรัฐมนตรีให้ใช้เครือข่ายของกระทรวงคือสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในการจัดหาวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุดในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังมีปัญหาการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการกลายพันธ์ของโควิด19 จนเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และหลายประเทศตลอดจนองค์การอนามัยโลกต้องตกอยู่ในสภาพขาดแคลนวัคซีนกันถ้วนหน้า สถานเอกอัครราชทูตไทยทั่วโลกได้พยายามติดต่อสอบถามไปยังรัฐบาลของเจ้าบ้านเมื่อมีข้อมูลว่ายังอาจมีวัคซีนพอที่ประเทศไทยเข้าถึงได้ โดยในการเจรจากระทำในหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มโอกาสทุกประการให้ประเทศไทยเข้าถึงวัคซีนให้ได้มากที่สุด เช่น การแลกเปลี่ยนหรือที่เรียกว่า swap คือในการที่ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาได้อยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาที่ไทยมีวัคซีนเพียงพอ ไทยก็นำคืนวัคซีนที่ผลิตได้ให้ประเทศนั้นๆ

Advertisement

นายดอนกล่าวว่า สำหรับบางประเทศที่มีแนวโน้มว่ามีพอใช้และอาจขายต่อได้ ไทยก็ขอซื้อ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเรื่องวัคซีนไม่ใช่เป็นเรื่องของเงินหรือราคา แต่เป็นเรื่องของการคาดการณ์ในมุมอุปทาน (supplies) และประเทศที่มีกำลังการซื้อสูงก็ได้สั่งซื้อล่วงหน้าไปก่อนที่วัคซีนจะได้เสร็จสิ้นการทดลองขั้นสุดท้ายด้วยซ้ำ ดังนั้นการที่รัฐบาลไทยได้พยายามติดต่อไปกับประเทศต่างๆ ในวงกว้างก็เป็นไปเพื่อให้ประชาชนไทยได้มาซึ่งวัคซีนให้มากและเร็วที่สุดอย่างแท้จริง โดยกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ให้สถานเอกอัครราชทูตทุกแห่งดำเนินการไปตามนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ตลอดมา

เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาลตามที่มีผู้พูดถึงการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข นายดอนย้ำว่า ทั้งสองกระทรวงมีการทำงานร่วมมือกันใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยที่ทำกันคนละหน้าที่ แต่จุดประสงค์เดียวกันคือให้ได้มาซึ่งวัคซีนให้กับประชาชนให้มากที่สุด เร็วที่สุดและปลอดภัยที่สุด ที่มีผู้นำมากล่าวอ้างในสภานั้นเป็นการนำประเด็นปลีกย่อยที่มีการพูดพาดพิงคนถึงในบางที่บางโอกาสมาพูดต่อ โดยไม่ได้มีข้อมูลที่แท้จริงโดยตรงแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image